ห้องข่าววีโอเอภาษาอังกฤษเสนอรายงานการเลือกตั้งของไทย โดยออกรายงานเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำทีมของ แพทองธาร ชินวัตร ที่ประกาศความพร้อมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย
พรรคสัญญาจะปรับขึ้นอัตราค่าแรงและเงินเดือนขั้นต่ำ รวมทั้งการแจกเงินเพื่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ที่หลายฝ่ายจับตาดูว่า จะเป็นโอกาสให้พรรคการเมืองหัวก้าวหน้าและประกาศสนับสนุนประชาธิปไตยได้กลับมาเป็นฝ่ายกุมอำนาจหรือไม่
หลังการเมืองของไทยในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาประสบเหตุวุ่นวายจากการก่อรัฐประหารและการประท้วงรุนแรงหลายครั้ง
รายงานภาษาอังกฤษชิ้นนี้ระบุว่าการต่อสู้ทางการเมืองในปัจจุบันของไทยกลายมาเป็นการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายหัวก้าวหน้าที่ต้องการความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นและกลุ่มชนชั้นสูงหัวอนุรักษ์นิยมผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มตัว
ในการประจัญหน้าครั้งนี้ คู่ที่ถูกจับตาว่าจะเป็นผู้นำของสองขั้วที่ว่าก็คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่เป็นผู้นำการก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. 2557 และแพทองธาร ผู้เป็นบุตรสาวและหลานอดีตนายกรัฐมนตรีจากตระกูลชินวัตรที่ต้องลงจากตำแหน่งเพราะการก่อรัฐประหารเหมือนกัน
ในรายงานชิ้นนี้ ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า พลเอกประยุทธ์ในวัย 69 ปี ที่มีกองทัพหนุนหลังอาจต้องพึ่งรัฐบาลผสมเสียงข้างน้อยและสมาชิกวุฒิสภา 250 คนที่ตนเป็นผู้เลือกมาช่วยให้สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อได้ ขณะที่ แพทองธารในวัย 36 ปี และพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดที่อาจขวางเส้นทางสู่ทำเนียบของนายกฯ อีกสมัยของพลเอกประยุทธ์
ในช่วงที่ผ่านมา แพทองธาร หรือ อุ๊งอิ๊ง เดินสายหาเสียงอย่างหนักมาตลอด จนกระทั่งเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ที่พรรคเพื่อไทยจัดงานใหญ่เพื่อเปิดตัวผู้ที่พรรควางตัวไว้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 คนอย่างเป็นทางการและประกาศนโยบายการหาเสียง ซึ่งเป็นโอกาสให้เธอขึ้นเวทีย้ำความมั่นใจว่า ประวัติศาสตร์ของพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมาทุกครั้งจะซ้ำรอยอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า ชัยชนะแบบถล่มทลายจะเป็นปัจจัยหลักที่จะรับประกันความพยายามในการ “รีเซ็ต” การเมืองไทยได้
นอกจากอุ๊งอิ๊งแล้ว พรรคเพื่อไทยยังเปิดตัว ชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารบริษัทแสนสิริ ที่เพิ่งยุติบทบาทในภาคธุรกิจเมื่อวันอังคารมาลงเล่นการเมืองเต็มตัว ในฐานะผู้มีสิทธิ์ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคด้วย
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่า เศรษฐา น่าจะเป็นผู้ที่มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่มากที่สุด หากพรรคเพื่อไทยสามารถกุมชัยชนะแบบถล่มทลายได้จริง
นโยบายที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอและเรียกเสียงเชียร์ได้อย่างมากคือ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนขั้นต่ำของผู้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีเป็น 25,000 บาท รวมทั้งการเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปเพื่อใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แม้จะไม่ได้มีการให้รายละเอียดว่าจะหาเงินทุนจากที่ใดมาใช้จ่ายในด้านนี้
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าชื่อของครอบครัวชินวัตรยังต้องเผชิญแรงต้านไม่น้อยจากกลุ่มคนชั้นสูงหัวอนุรักษ์นิยมที่มองว่า อุ๊งอิ๊ง คือ หุ่นเชิดของทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาที่ยังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ
ณพล จาตุศรีพิทักษ์ นักรัฐศาสตร์และนักวิจัยจาก Institute of Southeast Asian Studies (ISEAS) Yusof-Ishak Institute ซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า ความน่าจะเป็นที่จะมีการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมืองใด ๆ ไม่ว่าก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง ทำให้รัฐบาลผสมที่หนุนกองทัพมีความได้เปรียบอยู่ในมือ
อย่างไรก็ดี หลายคนไม่ได้ต้องการจะเห็นพลเอกประยุทธ์จะได้ดำรงตำแหน่งผู้รัฐบาลต่อไป หลังช่วงเวลาหลายปีที่เกิดเหตุความรุนแรงทางการเมืองมากมาย เสรีภาพที่ถูกลิดรอน และปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่ทำให้ประชาชนหลายล้านตกอยู่ในภาวะยากจน
- ที่มา: วีโอเอ