เจ้าหน้าที่ตำรวจปรามจลาจลใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำกำลังสูงยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจำนวนกว่าร้อยคนในวันอาทิตย์ ที่เดินเท้าไปยังฐานทัพทหารในกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อหวังกดดันให้ผู้นำรัฐบาลไทยลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจกับความสามารถในการจัดการภาวะวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวใช้ก้อนหิน ประทัด และลูกระเบิดปิงปอง ขว้างปาใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดแถวขวางขบวนไว้ โดยภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ในไทยแสดงให้เห็นว่า มีป้อมจราจรแห่งหนึ่งถูกจุดไฟเผาด้วย
ทั้งนี้ การปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจในวันอาทิตย์นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากการชุมนุมในพื้นที่ใกล้ที่พักของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ยังมีผู้ต่อต้านรัฐบาลอีกกลุ่มที่นำยานพาหนะต่างๆ ออกมาร่วมการชุมนุมแบบ “คาร์ม็อบ” ในพื้นที่ 3 จุดในกรุงเทพ ก่อนจะขับเคลื่อนไปยังส่วนอื่นๆ ของเมือง โดยการประท้วงขณะอยู่ภายในยานพาหนะนั้นเป็นความคิดริเริ่มที่ต้องการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังระบาดหนักอยู่ในเวลานี้
และขณะที่การชุมนุมล่าสุดนี้เป็นความพยายามกดดันนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยอ้างถึงเรื่องความล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสในประเทศ ที่ทำให้มีผู้ป่วยสะสมแล้วกว่า 900,000 คน และมีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมดกว่า 7,500 คนแล้ว รายงานข่าว ระบุว่า การประท้วงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบันลาออก และมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมทั้งการปฏิรูปต่างๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย