สื่อต่างชาติเกาะติดการโหวตนายกฯ รอบ 2 ซึ่งล่มไม่เป็นท่า เมื่อรัฐสภาไทยมีมติปัดตกการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้แคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวของพรรคก้าวไกลที่ได้ที่นั่งในสภามากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. จากปมถือหุ้นไอทีวี
ที่ประชุมสภามีมติ 395 ต่อ 312 เสียงที่เห็นว่าการเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำได้อีกครั้ง ถือเป็นความปราชัยครั้งที่ 2 ของนายพิธาและพรรคก้าวไกล ซึ่งเผชิญกับแรงต้านจากพรรคแนวอนุรักษ์นิยมและพรรคที่มีกองทัพหนุนหลังซึ่งปกครองประเทศมาถึง 9 ปี
การลงมติเมื่อวันพุธ เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธา แคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวของพรรคก้าวไกล ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระหว่างศาลพิจารณาคดีในข้อกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ การตัดสินของศาลรธน.ที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ยื่นคำร้องว่ามีหลักฐานว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลถือหุ้นไอทีวีซึ่งยุติการดำเนินกิจการไปนานแล้ว
นายพิธาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมของเขาระหว่างการอภิปรายในสภาเมื่อวันพุธว่า “เป็นที่ชัดเจนแล้ว ในระบบปัจจุบัน ชนะความไว้วางใจจากประชาชนไม่เพียงพอ ที่จะบริหารประเทศชาติ”
รอยเตอร์รายงานว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย 2 แกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเตรียมหารือกันหลังจากความล้มเหลวในการเสนอชื่อนายพิธาเมื่อวันพุธ ขณะที่การเสนอชื่อนายกฯ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายของนายพิธา ที่ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเขาพร้อมที่จะหลีกทางให้หากเขาล้มเหลว และยอมให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในการประชุมครั้งที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 27 ก.ค.นี้
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
