สื่อต่างชาติรายงาน คนไทยแห่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของไทยตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มเปิดการลงคะแนนตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ค. โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีผู้เดินทางไปใช้สิทธิ์อย่างคึกคักและต้องรอต่อแถวเพื่อลงคะแนน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 52 ล้านคน โดยคาดว่ามีผู้ออกไปใช้สิทธิ์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยทางเอพีระบุว่า คณะกรรมการเลือกตั้งเปิดเผยตัวเลขว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ประมาณ 39.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 75%

ซีเอ็นบีซีระบุว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า พรรคฝ่ายค้าน คือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีคะแนนนำโด่ง ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญของบรรดาพรรคการเมืองที่มีความเชื่อมโยงกับทหาร

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แม้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมีคะแนนนำหน้าไปไกลหลังจากนับคะแนนไปแล้วกว่า 90% แต่ยังคงไม่ชัดเจนว่าฝ่ายใดจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และยังต้องมีการเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ๆ รวมทั้งผ่านการลงมติของสมาชิกวุฒิสภา 250 คนที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว

รอยเตอร์ ระบุถึงผลงานที่เกินความคาดหมายของพรรคก้าวไกล ที่มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งแทบทุกเขตในกรุงเทพฯ โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเมืองไทย และท้าทายกลุ่มอำนาจเก่า

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นแถลงในช่วงหลังการปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง กล่าวถึงผลโพลการเลือกตั้งว่า "ตัวเลขก็ออกมาชัดเจนว่า พี่น้องประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง” พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จากผลโพลดังกล่าวน่าจะมีพรรคคะแนนอันดับ1และอันดับ 2 ที่มีคะแนนสูงที่สุดสามารถรวมตัวเป็นเสียงข้างมากได้ และเชื่อว่า “การเปลี่ยนแปลงมาถึงประเทศไทยแล้ว”

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางไปลงคะแนนเสียงที่เขตเลือกตั้งที่ 6 กรุงเทพมหานคร หน่วยเลือกตั้งที่ 10 แขวงพญาไท เขตพญาไท

รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่ให้มากับ ส.ส.เขตและพรรค" พร้อมยืนยันว่าจะเคารพในประชาธิปไตยและผลการเลือกตั้ง

รอยเตอร์รายงานด้วยว่า แพทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรค ขึ้นแถลงข่าวที่ศูนย์รายงานข่าวการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า "เราต้องให้เกียรติพรรคที่ได้คะแนนสูงสุดอย่างเป็นทางการเป็นคนเริ่มต้น เป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้เลือกอันดับ 1 ที่จะมีการฟอร์มรัฐบาล"

ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวกับรอยเตอร์ว่า กระแสความนิยมที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการเมืองไทย และว่า "พรรคก้าวไกลยกระดับการต่อสู้ทางการเมืองไปอีกขั้นด้วยการปฏิรูปฐานอำนาจเก่า ซึ่งถือเป็นสมรภูมิใหม่ของการเมืองไทย และการเลือกตั้งในวันนี้คือพันธสัญญาของพรรคก้าวไกลที่มุ่งมองไปในอนาคตของประเทศไทย"

ทางด้าน ผศ.ดร.เสาวนีย์ ตรีรัตน์ อเลกซานเดอร์ แห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ผลการเลือกตั้งจนถึงขณะนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของประชาธิปไตย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ก็เตือนว่า สถานการณ์ยังคง "ไม่สามารถคาดเดาได้" และคำตัดสินของคณะกรรมการการเลือกตั้งก็อาจส่งผลต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

ด้านนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า หากพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ทางพรรคฯ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการเลือกพรรคที่จะจับขั้วรัฐบาลด้วย โดยอาจตัดสินใจพรรคแนวอุดมการณ์เดียวกัน คือพรรคก้าวไกล เพื่อตัดตอนพรรคที่มีความเชื่อมโยงกับทหาร

ในขณะที่หลายคนเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยอาจตัดสินใจจับมือกับพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ นำโดยพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยของพลเอกประยุทธ์ ได้เช่นกัน

• ที่มา: เอพี รอยเตอร์ ซีเอ็นบีซี และวีโอเอ