ผู้นำรัฐบาลเมียนมา ออง ซาน ซูจี ออกจากเมียนมาในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) เพื่อเดินทางไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ (International Court of Justice) ที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าการต่อสู้ทางกฎหมาย กับประเทศแกมเบีย ที่ยื่นฟ้องเมียนมาต่อ ICJ ในข้อหาที่ว่าเมียนมา "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวมุสลิมโรฮิงจะ
นางซูจีเดินทางออกจากสนามบินกรุงเนปิดอว์ในวันอาทิตย์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมคณะนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ของเมียนมา โดยก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ชาวเมียนมาหลายพันคนได้เดินขบวนเพื่อให้กำลังใจนางซูจีในการต่อสู้ทางกฎหมายกับประเทศแกมเบียในครั้งนี้
ชาวเมียนมาทั่วประเทศมีแผนเดินขบวนตลอดสัปดาห์นี้เพื่อให้กำลังใจนางซูจี ก่อนที่จะถึงวันขึ้นให้การต่อศาลโลก คือระหว่างวันที่ 10 - 12 ธันวาคม
เมื่อเดือนที่แล้ว แกมเบีย ประเทศเล็ก ๆ ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ยื่นฟ้องเมียนมา ต่อศาลโลก ระบุว่าเมียนมาทำให้ชาวโรฮิงจะหลายแสนคนต้องเดินทางออกจากถิ่นฐานเดิมของพวกเขาในรัฐยะไข่
ในการดำเนินคดีครั้งนี้ แกมเบีย ซึ่งมีประชากรจำนวนมากนับถือศาสนาอิสลาม เดินเรื่องในนามองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization for Islamic Cooperation) ที่มีสมาชิก 57 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีลักษณะนี้ผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ อาจต้องใช้เวลาหลายปี แต่ศาลอาจออกมาตรการระยะสั้นที่เป็นการคุ้มครองเหยื่อ ที่เรียกกว่า provisional measures ซึ่งอาจมีคำตัดสินออกมาในเดือนธันวาคมนี้
เมื่อ 2 ปีก่อน กองทัพเมียนมาใช้มาตรการที่รุนแรงและกว้างขวาง เพื่อตอบโต้การที่กองกำลังติดอาวุธของชาวโรฮิงจะสังหารเจ้าหน้าที่ของทางการกว่า 10 คน
และตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2560 มีชาวมุสลิมโรฮิงจะกว่า 700,000 คน อพยพออกจากถิ่นที่อยู่เดิมของพวกเขาไปยังค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ ผู้รอดชีวิตหลายคนเล่าถึงการที่ชาวโรฮิงจะถูกสังหารหมู่ ข่มขืนและถูกเผาบ้านเรือน
ก่อนหน้านี้สหประชาชาติเคยระบุว่า ความรุนแรงในเมียนมาเป็นกรณีตัวอย่างของการกวาดล้างทางชาติพันธุ์ และตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาตรวจสอบหาความจริง