ประเทศแกมเบียในภูมิภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ยื่นฟ้องเมียนมาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) โดยกล่าวหาว่าเมียนมา "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวมุสลิมโรฮิงจะ และทำให้คนเหล่านี้จำนวนหลายแสนคนต้องเดินทางออกจากถิ่นฐานเดิม
ในการดำเนินคดีครั้งนี้ แกมเบีย ซึ่งมีประชากรจำนวนมากนับถือศาสนาอิสลาม ได้รับการสนับสนุนอย่างสมบูรณ์จากองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization for Islamic Cooperation) ที่มีสมาชิก 57 ประเทศ
การดำเนินคดีลักษณะนี้ผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ อาจให้เวลาหลายปี
แต่ศาลอาจออกมาตรการระยะสั้นที่เป็นการคุ้มครองเหยื่อ ที่เรียกกว่า provisional measures ซึ่งอาจมีคำตัดสินออกมาในเดือนหน้าได้
เมื่อกว่า 2 ปีก่อน กองทัพเมียนมาใช้มาตรการที่รุนแรงและกว้างขวาง เพื่อตอบโต้การที่กองกำลังติดอาวุธของชาวโรฮิงจะสังหารเจ้าหน้าที่ของทางการกว่า 10 คน
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2560 มีชาวมุสลิมโรฮิงจะกว่า 700,000 คนอพยพออกจากถิ่นที่อยู่เดิมของพวกเขา ผู้รอดชีวิตจากมาตรการของกองทัพเมียนมาที่ข้ามพรมแดนมาอยู่ที่บังคลาเทศ ต่างเล่าถึง การที่ชาวโรฮิงจะถูกสังหารหมู่ ข่มขืนและถูกเผาบ้านเรือน
ก่อนหน้านี้สหประชาชาติเคยระบุว่าความรุนแรงในเมียนมาเป็นกรณีตัวอย่างของการกวาดล้างทางชาติพันธุ์ และตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาตรวจสอบหาความจริง
เมื่อปีที่แล้วสหประชาชาติกล่าวว่า ตัวเลขชาวโรฮิงจะ 10,000 คนที่เสียชีวิตจากความรุนแรงน่าจะเป็นเพียงตัวเลขขั้นต่ำเท่านั้น