รัฐบาลทหารของเมียนมา ประกาศว่า นางออง ซาน ซูจี ผู้นำประเทศ จะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าการต่อสู้ทางกฎหมายกับประเทศแกมเบีย ที่ยื่นฟ้องเมียนมาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ (International Court of Justice) ในข้อหาที่ว่าเมียนมา "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวมุสลิมโรฮิงจะ
ทั้งนี้นางซูจี ที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศด้วย จะนำทีมนักกฎหมายที่จะเดินทางไปต่อสู้คดีนี้ ที่ศาล ICJ ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แกมเบียประเทศในภูมิภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ยื่นฟ้องเมียนมา ที่ศาลดังกล่าว และระบุว่าเมียนมาทำให้ชาวโรฮิงจะ หลายแสนคนต้องเดินทางออกจากถิ่นฐานเดิม
ในการดำเนินคดีครั้งนี้ แกมเบีย ซึ่งมีประชากรจำนวนมากนับถือศาสนาอิสลาม เดินเรื่องในนามองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization for Islamic Cooperation) ที่มีสมาชิก 57 ประเทศ
การดำเนินคดีลักษณะนี้ผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ อาจให้เวลาหลายปี
แต่ศาลอาจออกมาตรการระยะสั้นที่เป็นการคุ้มครองเหยื่อ ที่เรียกกว่า provisional measures ซึ่งอาจมีคำตัดสินออกมาในเดือนหน้าได้
เมื่อกว่า 2 ปีก่อน กองทัพเมียนมาใช้มาตรการที่รุนแรงและกว้างขวาง เพื่อตอบโต้การที่กองกำลังติดอาวุธของชาวโรฮิงจะสังหารเจ้าหน้าที่ของทางการกว่า 10 คน
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2560 มีชาวมุสลิมโรฮิงจะกว่า 700,000 คนอพยพออกจากถิ่นที่อยู่เดิมของพวกเขา ผู้รอดชีวิตจากมาตรการของกองทัพเมียนมาที่ข้ามพรมแดนมาอยู่ที่บังคลาเทศ ต่างเล่าถึง การที่ชาวโรฮิงจะถูกสังหารหมู่ ข่มขืนและถูกเผาบ้านเรือน
ก่อนหน้านี้สหประชาชาติเคยระบุว่าความรุนแรงในเมียนมาเป็นกรณีตัวอย่างของการกวาดล้างทางชาติพันธุ์ และตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาตรวจสอบหาความจริง