ตำรวจสิงคโปร์ยืนยันว่านักธุรกิจชาวสิงคโปร์ซึ่งสหรัฐฯ กำลังต้องการตัวในข้อหาละเมิดมาตรการลงโทษต่าง ๆ ที่ดำเนินการต่อเกาหลีเหนือนั้นยังอยู่ที่สิงคโปร์ และเจ้าหน้าที่ยังคงทำการสอบสวนอยู่ในเวลานี้
แถลงการณ์จากกองกำลังตำรวจสิงคโปร์ (Singapore Police Force – SPF) ที่ออกมาในช่วงค่ำของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้หาความกระจ่างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นเงินรางวัลที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศมอบแก่ผู้ให้เบาะแสที่จะนำไปสู่การขัดขวางทางการเงินของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ การฟอกเงิน และปฏิบัติการทางไซเบอร์บางอย่างของเกาหลีเหนือ หลังได้นำส่งข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการสอบสวนผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวมาโดยตลอด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว สหรัฐฯ ประกาศเสนอเงินรางวัล 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับผู้ที่สามารถให้เบาะแสของ เควก กี เส็ง นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ที่ถูกกล่าวหาว่า ทำการส่งเชื้อเพลิงหลายรอบให้กับเกาหลีเหนือ รวมทั้งทำการขนถ่ายสินค้าระหว่างเรือ และทำการฟอกเงินผ่านบริษัทหน้าฉากด้วย
อัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในนครนิวยอร์กออกหมายจับ เควก เมื่อปี ค.ศ. 2021 หรือ หนึ่งปีหลังจากเรือขนส่งน้ำมันลำหนึ่งของเขาที่ชื่อ M/T Courageous ถูกทางการกัมพูชายึดไว้ตามคำร้องขอของสหรัฐฯ ในข้อหาละเมิดมาตรการลงโทษ
นักธุรกิจสิงคโปร์วัย 62 ปีรายนี้ เป็นเจ้าของบริษัท Swanseas Port Services ที่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เสนอเงินรางวัลสำหรับข้อมูลของ เควก เนื่องจากไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่า นักธุรกิจรายนี้หลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด หลังมีข่าวที่ระบุว่า เควก อยู่ที่ เกาหลีเหนือ กัมพูชา ไต้หวัน และประเทศไทย รวมทั้ง ประเทศแคเมอรูน ในแอฟริกา และเซนต์คิตส์และเนวิส ซึ่งเป็นประเทศเล็ก ๆ ในแถบทะเลแคริบเบียน
แต่ตำรวจสิงคโปร์ยืนยันในแถลงการณ์ว่า “เควก อยู่ในสิงคโปร์ในเวลานี้”
แถลงการณ์ของตำรวจสิงคโปร์ ยืนยันว่า เควก ถูกหน่วย Commercial Affairs Department ซึ่งรับผิดชอบคดีอาชญากรรมคอปกขาว (white collar crime) สอบสวนมาตั้งแต่เดือนเมษายนของปีที่แล้ว หลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่า มีการฟ้องร้องคดีอาญาต่อนักธุรกิจผู้นี้
กองกำลังตำรวจสิงคโปร์กล่าวด้วยว่า ตนได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับ เควก ให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ มาโดยตลอด ขณะที่ การสืบสวนยังคงเดินหน้าอยู่ เนื่องจากความสลับซับซ้อนของคดีนี้
ที่มา: วีโอเอ