ศาลในสหรัฐฯ พิพากษาลงโทษจำคุกอดีตนักวิจัยเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการช่วยเหลือเกาหลีเหนือหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกรุงวอชิงตัน
อัยการรัฐบาลกลางในนครแมนฮัตตันเปิดเผยว่า ตุลาการศาลแขวง เควิน คาสเทล ตัดสินพิพากษาให้ เวอร์จิล กริฟฟิธ ซึ่งเคยเป็นนักวิจัยของมูลนิธิอีเธอเรียม (Ethereum Foundation) ซึ่งเป็นองคกร์ไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานสนับสนุนด้านเทคโนโลยีให้กับสกุลเงินดิจิทัล อีเธอร์ (ether) รับโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากมีความผิดในข้อหาดังกล่าว
กริฟฟิธ ถูกจับกุมตัวได้เมื่อปี ค.ศ. 2019 และยอมสารภาพรับผิดเมื่อเดือนกันยายนของปีที่แล้วว่า ทำการสมรู้ร่วมคิดเพื่อละเมิดกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act ของสหรัฐฯ ด้วยการเดินทางไปยังเกาหลีเหนือเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชน
ในระหว่างการไต่สวนคดีนี้ กริฟฟิธ พยายามต่อรองขอรับโทษเป็นเวลา 2 ปี แต่ศาลตัดสินให้ต้องรับโทษ 5 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดที่อัยการยื่นเสนอมา ขณะที่ ผู้ต้องหารายนี้ถูกสั่งปรับเป็นเงิน 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าตัวเลข 1 ล้านดอลลาร์ที่อัยการเสนอไว้
อัยการที่รับผิดชอบคดีนี้เปิดเผยว่า กริฟฟิธ ซึ่งจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) เดินทางผ่านจีนไปเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2019 เพื่อนำเสนอผลงานในการประชุม Pyongyang Blockchain and Cryptocurrency แม้ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะไม่อนุญาตให้เดินทางก็ตาม ขณะที่ เจ้าตัวเข้าใจดีว่า ข้อมูลที่ตนนำไปเสนอนั้นจะกลายมาเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลเปียงยางในการหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษของรัฐบาลวอชิงตัน สำหรับการเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ มูลนิธิอีเธอเรียม ยืนยันเมื่อตอนที่ตำรวจจับกุม กริฟฟิธ ว่า ทางมูลนิธิไม่ได้อนุมัติหรือให้การสนับสนุนการเดินทางไปเกาหลีเหนือของอดีตนักวิจัยของตนเลย