นายกรัฐมนตรีศรีลังกา มหินทรา ราชปักษา ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันจันทร์ หลังจากเผชิญการประท้วงอย่างหนักต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางการศรีลังกาแถลงว่า นายกฯ ราชปักษาได้ยื่นใบลาออกกับประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ผู้เป็นน้องชายของตนเอง หลังจากที่ผู้นำทั้งสองตกเป็นเป้าหมายของการประท้วงให้ลงจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงในศรีลังกา
ขณะเดียวกัน เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลกับผู้ประท้วง บริเวณด้านนอกสำนักงานประธานาธิบดีในกรุงโคลัมโบ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 200 คน โดยตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและหัวฉีดน้ำแรงดันสูงในการสลายการชุมนุม และมีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการประท้วง
ผู้ประท้วงพากันเดินขบวนทั่วศรีลังกาเป็นเวลาต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ซึ่งนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าจำเป็นต่าง ๆ และไฟฟ้าถูกตัดต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ศรีลังกามีหนี้ต่างประเทศที่ถึงกำหนดชำระภายในปีนี้ราว 4,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงหนี้พันธบัตรที่ต้องจ่ายคืนในเดือนกรกฎาคมนี้มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐบาลศรีลังกาพยายามกู้ยืมเงินจากแหล่งต่าง ๆ มาชดใช้หนี้ เช่น ไอเอ็มเอฟ ธนาคารโลก และอินเดีย
อิทธิพลทางการเมืองของตระกูลราชปักษา ส่วนหนึ่งมาจากบทบาทของนายกรัฐมนตรีมหินทรา ราชปักษา เมื่อครั้งที่เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีศรีลังกา ช่วงปี 2009 จากผลงานที่เขายุติสงครามกลางเมืองจากความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์ที่กินเวลานานถึง 25 ปีได้
แต่ในตอนนี้ หลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลว่า การกุมอำนาจทางการเมืองของตระกูลราชปักษาในกระทรวงสำคัญต่างๆ อาจกระทบกับความเป็นอิสระในการบริหารประเทศ และทำให้รัฐบาลไม่สามารถจัดการกับวิกฤตต่างๆ ที่ถาโถมศรีลังกาในเวลานี้ได้
โดยก่อนหน้านี้มีสมาชิกครอบครัวอีก 5 คนในตระกูลราชปักษาที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ รวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บาซิล ราชปักษา น้องชายของปธน. ซึ่งต่อมาถูกปลดจากตำแหน่ง และนามาล ราชปักษา ผู้เป็นหลานชายปธน. ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของศรีลังกาเช่นกัน
- ที่มา: วีโอเอ