ในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นเวลาที่ต้องมีการบันทึกไว้ว่า มนุษย์ได้ขยายอาณาเขตการท่องเที่ยวออกไปนอกโลกได้สำเร็จแล้ว หลังมีผู้ประกอบธุรกิจเอกชนเริ่มนำเสนอบริการท่องเที่ยวในอวกาศกันหลายราย นับเป็นการเปิดศักราชอุตสาหกรรมท่องเที่ยวใหม่ขึ้นแล้วจริงๆ
ปี 2021 เป็นปีที่มีพัฒนาการที่สำคัญบางประการในการสำรวจดาวอังคาร เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวในอวกาศในอเมริกา
ในเดือนกุมภาพันธ์ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า ประกาศว่า ยานสำรวจดาวอังคาร เพอร์ซิเวียเรนซ์ (Perseverance) ได้ลงจอดบนดาวเคราะห์แดงเรียบร้อยแล้ว เพื่อปฏิบัติภารกิจรวบรวมดินและหินของดาวอังคารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในสมัยโบราณ
ยานเพอร์ซิเวียเรนซ์ ลงจอดบนพื้นที่ของดาวอังคารที่เรียกว่า เจเซโร เครเตอร์ (Jezero Crater) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าบริเวณดังกล่าวมีก้นทะเลสาบโบราณขนาดใหญ่ และองค์การนาซ่าเชื่อว่า เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการค้นหาสัญญาณจุลินทรีย์ของสิ่งมีชีวิต
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า หากเคยสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคาร ก็น่าจะเป็นเมื่อ 3,000-4,000 ล้านปีก่อน ในขณะที่มีน้ำไหลอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ทั้งนี้ ยานเพอร์ซิเวียเรนซ์ เป็นยานสำรวจลำที่ 5 ของนาซ่าในการสำรวจดาวอังคาร
ยานเพอร์ซิเวียเรนซ์ นำเฮลิคอปเตอร์ทดลองขนาดเล็กที่มีชื่อว่า อินเจนูอิตี้ (Ingenuity) ไปยังดาวอังคารด้วย ในเดือนเมษายน นาซ่าประกาศว่า เฮลิคอปเตอร์ทดลองนี้ประสบความสำเร็จในการขึ้นและลงจอดบนดาวเคราะห์ดวงนี้ โดยกล่าวว่า เที่ยวบินนั้นเป็นเที่ยวบินประวัติศาสตร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีเครื่องบินทำการบินแบบขับเคลื่อนและควบคุมบนดาวเคราะห์ดวงอื่น
ทั้งนี้ การนำเฮลิคอปเตอร์ อินเจนูอิตี้ ไปทดสอบบนดาวอังคารนั้นมีจุดประสงค์ที่แสดงให้เห็นว่า เที่ยวบินดังกล่าวมีความเป็นไปได้ โดยองค์การนาซ่ากล่าวว่า น่าจะมีการนำเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินอื่นๆ ที่คล้ายกันนี้มาใช้เพื่อช่วยนักบินอวกาศในภารกิจการค้นหาและรวบรวมต่างๆ ได้ในอนาคต
และขณะที่มีการวางแผนทดสอบเพียงไม่กี่เที่ยวบิน ทีมนักบิน อินเจนูอิตี้ กล่าวว่า การบินทดสอบเที่ยวบินแรกประสบความสำเร็จอย่างมากจนมีการตัดสินใจขยายจำนวนเที่ยวบินทดลอง และนับตั้งแต่เริ่มมีการทดลองมา เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ ได้ทำการบินเสร็จสิ้นแล้วอย่างน้อย 17 เที่ยวบิน โดยสามารถทำการบินเป็นระยะเวลาที่นานขึ้นละเป็นระยะทางที่ไกลขึ้นด้วย
นอกจากนาซ่าแล้ว ในปีนี้ ทั้งจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ได้ส่งยานอวกาศลำแรกของตนไปยังดาวอังคารด้วย
เมื่อเดือนพฤษภาคม จีนประกาศว่า หลังจากการเดินทางอยู่นานเป็นระยะเวลาเจ็ดเดือน ยานอวกาศ เทียนเว่น-วัน (Tianwen-1) ของตนลงจอดบนดาวอังคารได้สำเร็จที่บริเวณ ยูโทเปีย แพลนิเชีย (Utopia Planitia) ซึ่งเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของดาวเคราะห์ดวงนี้ โดยยานสำรวจอวกาศหกล้อนี้ได้ศึกษาดินบนพื้นผิวและชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์เพื่อค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในสมัยโบราณบนดาวเคราะห์ดวงนี้
นอกจากนี้ ยานอวกาศ โฮป โพรบ (Hope Probe) ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกส่งไปยังวงโคจรที่สูงมากเพื่อศึกษาดาวอังคาร โดยภารกิจ Emirates Mars Mission มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาชั้นบรรยากาศและสภาพอากาศศรอบๆ ดาวอังคาร รวมทั้งพยายามช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า ไฮโดรเจนและออกซิเจนทำปฏิกิริยาอย่างไรในชั้นบรรยากาศชั้นบนของดาวเคราะห์
ในเดือนกุมภาพันธ์ นักวิทยาศาสตร์ประกาศว่า พวกเขาได้สร้างแผนที่ใหม่ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุแหล่งน้ำที่ดีที่สุดบนดาวอังคาร
ทั้งนี้ น้ำถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมการสำรวจบนดาวอังคารในอนาคต และแผนที่นี้ได้ระบุพื้นที่เฉพาะสองแห่งบนดาวอังคารที่อาจพบน้ำแข็งใต้ผิวดินได้
และในเดือนกรกฎาคม ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) อภิมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ได้ปล่อยเครื่องบินจรวดที่สร้างโดยบริษัท เวอร์จิ้น กาแลกติก (Virgin Galactic) ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวทางอวกาศที่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง ขึ้นสู่อวกาศ และ แบรนสัน ได้ เดินทางร่วมกับนักบินสองคนและผู้เชี่ยวชาญด้านภารกิจอวกาศอีกสามคน เพื่อสัมผัสกับสภาพไร้น้ำหนักเพียงไม่กี่นาทีและมองกลับลงมาบนโลก
และอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ได้บินขึ้นไปยังอวกาศด้วยจรวด บลู ออริจิน (Blue Origin) ที่บริษัทของเขาสร้างขึ้นเอง โดยมีผู้ร่วมเดินทางอีกสามคนขึ้นทำการบินระยะสั้นๆ กับเขาด้วย ซึ่งก็คือ น้องชายของเขาเอง พร้อมด้วย วัยรุ่นชาวดัตช์คนหนึ่ง และนักบินวัย 82 ปี
เที่ยวบินของ แบรนสัน และ เบโซส นั้นได้เป็นการเปิดตัวอุตสาหกรรมใหม่อย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ การพาผู้คนไปเยือนอวกาศ อย่างไรก็ตาม การเดินทางดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่ายสูง โดยราคาสำหรับเที่ยวบินเดียวของ เวอร์จิ้น กาแลกติก อยู่ที่ 250,000 ดอลลาร์ ส่วน บลู ออริจิน ยังไม่ได้ประกาศราคาต่อสาธารณะ
และเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นชื่อ ยูซาคุ มาเอซาวา ได้เดินทางไปเยือนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เป็นเวลา 12 วัน พร้อมกับผู้ช่วย ด้วยยานอวกาศ โซยุซ (Soyuz) ของรัสเซีย โดยสนนราคาของการเดินทางครั้งนั้นยังไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่มีบางสื่อที่ระบุว่าเที่ยวบินนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
