ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก-ยอล และนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง พบหารือในวันอาทิตย์ และตกลงจะเริ่มเปิดการเจรจาทางการทูตและความมั่นคง รวมทั้งสานต่อการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี จากการเปิดเผยของสำนักงานปธน.เกาหลีใต้
การเจรจาของปธน.ยูน และนายกฯ หลี่ มีขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าร่วมประชุมไตรภาคีกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
ในการหารือร่วมกันวันอาทิตย์ ยูนกล่าวกับหลี่ว่า ทั้งสองประเทศควรทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนการสร้างผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และรับมือความท้าทายที่ภูมิภาคนี้และทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงสงครามยูเครน สงครามอิสราเอล-ฮามาส และความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่นายกฯ หลี่ กล่าวกับปธน.ยูน เช่นกันว่า จีนและเกาหลีใต้ควรหลีกเลี่ยงการนำประเด็นเศรษฐกิจและการค้ามาเป็นเครื่องมือทางการเมืองและความมั่นคง และควรร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน ตามรายงานของสื่อซินหัวของทางการจีน
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผู้นำและนักการทูตของจีนมักออกมาประณามสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร เรื่องการควบคุมการส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของจีน
การประชุมไตรภาคี
เมื่อปี 2008 จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เห็นชอบให้มีการประชุมประจำปีระหว่างผู้นำของสามประเทศ เพื่อสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ แต่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมทั้งการระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้การประชุมนี้ถูกระงับไปตั้งแต่ปี 2019
คาดว่าในการประชุมที่กรุงโซลในวันจันทร์ ผู้นำทั้งสามประเทศจะมีแถลงการณ์ร่วมใน 6 ประเด็นสำคัญ รวมถึง เศรษฐกิจและการค้า, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, การแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน, สาธารณสุข และอายุเฉลี่ยประชากรที่เพิ่มขึ้น
การประชุมสุดยอดสามฝ่ายครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างพยายามผสานความสัมพันธ์ที่เกิดรอยร้าวจากเหตุการณ์ในอดีต รวมทั้งการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ท่ามกลางความขัดแย้งและการแข่งขันระหว่างอเมริกากับจีน
นอกจากนี้ ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างเตือนจีนเรื่องความพยายามเปลี่ยนแปลงสถานะของไต้หวันด้วยการใช้กำลัง ขณะที่จีนเองก็วิจารณ์ทั้งสองประเทศที่ส่งสมาชิกรัฐสภาไปเข้าร่วมพิธีรับตำแหน่งของประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ ไล่ ชิง เต๋อ ด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์