นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง (Lee Hsien Loong) ของสิงคโปร์ เป็นแขกรับเชิญของทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนตุลาคม และผู้นำของสิงคโปร์ได้บอกกับประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ ว่าสิงคโปร์ก็เช่นเดียวอีกหลายประเทศในเอเชีย ที่กำลังจับตามองความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อย่างใกล้ชิด
ระหว่างการกล่าวปราศรัยที่ Council on Foreign Relations ในกรุงวอชิงตัน นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ให้ทัศนะอย่างกว้างไกล และมีรายละเอียดมากกว่า โดยชี้ว่าสภาพการณ์ทางภูมิยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังก่อตัวในขณะนี้ ไม่ได้มาจากปัจจัยและพลวัตรภายในเท่านั้นแต่ยังขึ้นอยู่กับเจตนาและการกระทำของสหรัฐฯ ด้วย
ผู้นำของสิงคโปร์กล่าวถึงการแข่งขันในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สหรัฐฯ จะต้องรักษาการมีบทบาทในเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ต้องการเอาไว้ เพราะมิฉะนั้นแล้ว ประเทศอื่นๆ ที่ต้องการเป็นมิตรกับทั้งสหรัฐฯ และจีน แต่หากจีนมีความพร้อมมากกว่า ประเทศเหล่านี้ก็จะเริ่มผูกสัมพันธ์กับจีนก่อน
นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง กล่าวด้วยว่า จีนมองรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันว่า ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการแสวงกำไรหรือผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่ก็อาจบ่งชี้ได้เช่นกันว่า ผู้นำของจีนมองประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าต้องการเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เพียงแค่การพูดโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ขณะนี้จีนอาจยังอ่านประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ออก หรือยังไม่เข้าใจในนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน
นอกจากนั้น ผู้นำรัฐบาลสิงคโปร์ยังชี้ว่า จากการประชุมใหญ่ครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิตส์จีนที่เพิ่งจบลง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กำลังวางพื้นฐานอนาคตระยะยาวให้กับประเทศ ที่ยาวไกลไปอย่างน้อยถึงปี พ.ศ. 2593 เพื่อให้จีนมีความมั่งคั่งและมีพลังอำนาจต่อไปอีกหลายสิบหรือนับร้อยปี