ที่ชั้นเรียนเต้นรำในนครนิวยอร์ก จะเห็นบรรดาผู้สูงอายุพากันยักย้ายส่ายสะโพก วาดลวดลายในการเต้นซัลซ่า ชะชะช่า เมอเรงเก้ และบาชาตา เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากการแยกตัวออกจากสังคมเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเป็นเวลาสองปี
แม้ว่านักเรียนบางคนจะมีอาการข้อต่อแข็ง หรือแม้กระทั่งสูญเสียแขนขา แต่พวกเขาก็ยังคงเข้าร่วมชั้นเรียนฟรี ที่สอนโดยวอลเทอร์ เปเรซ (Walter Perez) ที่ศูนย์ชุมชน YM & YWHA of Washington Heights and Inwood ที่อยู่ทางตอนบนของเกาะแมนฮัตตัน
เฟลิกซ์ กัสติลโล (Felix Castillo) นักทรัมเป็ตวัย 74 ปี ซึ่งสูญเสียขาของเขาไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน กล่าวว่า เขารู้สึกเร้าใจจนอยากจะลุกขึ้นมาเต้นเมื่อได้ยินเสียงเพลงซัลซ่า และเมื่อรู้สึกสนุกกับเสียงเพลงเขาก็นั่งเต้นอยู่บนเก้าอี้ของตัวเองได้
ยูจีเนีย เพลรัลทา (Eugenia Peralta) วัย 89 ปี ที่แม้จะมีอาการของโรคสมองเสื่อม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหมุนตัวไปมาอยู่รอบๆ ห้อง จนทำให้ให้เพื่อนๆ เรียกเธอว่า “โร้ดรันเนอร์” หรือ นกนักวิ่งในตำนาน จากคำบอกเล่าของ แจ็คกี้ เพอรัลทา (Jackie Peralta) ลูกสาวของเธอ
แจ็คกี้เล่าว่า โควิดได้ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อยูจีเนียคุณแม่ของเธอ โดยทำให้คุณแม่เคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง แต่ตอนนี้คุณแม่ของเธออาการกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง และเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้นด้วย
เปเรซ ในวัย 50 ปี และเพื่อนของเขาซึ่งเป็นนักเต้นแทงโก้ชาวอาร์เจนตินา เริ่มเปิดสอนชั้นเรียนแบบหนึ่งชั่วโมงในปี 2013 เพื่อแนะนำการเต้นลีลาศแบบละตินที่ศูนย์คนชรา
เปเรซ เล่าว่า เขาได้เห็นนักเรียนของพวกเขามีความสุขมากขึ้น ทั้งยังได้ปรับสมดุลทางกายภาพและความแข็งแรงของร่างกาย อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้พวกเขาได้เข้าสังคมอีกด้วย
ปกติในชั้นเรียนจะเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกาย การนั่ง เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในเรื่องการเคลื่อนไหว จากนั้นก็เริ่มจะลุกขึ้นยืนและเต้นกันเล็กน้อย
เขากล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อชั้นเรียนนี้ได้กลับมาเปิดสอนอีกครั้งหลังจากหยุดพักไปราวหนึ่งปี เขาพบว่าความแข็งแกร่งของร่างกายทุกคนจะไม่เหมือนเดิม และพบว่ามีหลายๆ คนที่ไม่ได้กลับมาร่วมคลาสเต้นกันอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่ทุกคนที่เหลือก็มีความสุขที่ได้กลับมาเรียนที่นี่
ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้แก่เปเรซก็คือ ความสุขในการเต้นที่เขาได้ค้นพบเมื่ออายุ 21 ปี ตอนที่คุณแม่ของเขาเสียชีวิตลง
เปเรซเล่าว่า ในตอนที่แม่ของเขาเสียชีวิตไป เขาได้เข้าไปสวดมนต์อธิษฐานในโบสถ์ และพื้นที่ถัดไปจากโบสถ์ในอาร์เจนตินาเป็นสถานที่สำหรับเต้นแทงโก้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มเต้นแทงโก้เพื่อเป็นการบำบัดจิตใจ จากนั้นก็กลายมาเป็นอาชีพและเป็นวิถีชีวิตของเขาไปในที่สุด
เปเรซ ทิ้งท้ายไว้ว่า ในการเต้นรำนั้น ทำให้เขาได้สัมผัสและเยียวยาหัวใจด้วยการโอบกอด และการก้าวเดินไปตามจังหวะเพลงพร้อมกับคู่เต้นนั้น เปรียบเสมือนการก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางที่ไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง แต่กำลังก้าวเดินไปพร้อมกับเสียงเพลงในอ้อมกอดของใครบางคน
- ที่มา: รอยเตอร์