สำนักข่าว The Associated Press รายงานว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ออกคำแนะนำถึงการจัดลำดับความสำคัญของผู้ที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ในโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนรอบใหม่ในวันจันทร์
เมื่อวันอาทิตย์ คณะกรรมการดังกล่าวลงมติด้วยคะแนน 13 ต่อ 1 เห็นควรให้ชาวอเมริกันอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป และบุคลากรที่ทำงานด่านหน้า เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนก่อน ทั้งนี้ ผู้ที่ทำงานด่านหน้านั้นรวมไปถึงตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ครู พนักงานของไปรษณีย์สหรัฐฯ พนักงานในภาคการคมนาคมสาธารณะ และพนักงานในภาคอาหาร การเกษตร การผลิต และร้านขายของใช้และอาหารสำหรับครัวเรือน
การลงมติครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่รถบรรทุกหลายร้อยคันเริ่มขนส่งวัคซีนเกือบ 6 ล้านโดส ที่พัฒนาโดยบริษัทโมดอร์นา (Moderna) และสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NIH ไปทั่วประเทศ โดยเริ่มมีการขนส่งวัคซีนเพียงสองวันหลังจากที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA อนุมัติให้ใช้วัคซีนตัวนี้ได้เป็นการฉุกเฉิน
ก่อนหน้านี้ วัคซีนต้านโควิด-19 ที่ร่วมพัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และบริษัทไบโอเอนเท็ค (BioNTech) 2.9 ล้านโดส ได้ถูกจัดส่งทั่วประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเริ่มมีการให้วัคซีนตัวนี้กับบุคลากรด้านสาธารณสุขด่านหน้าและผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราก่อน
ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และจิล ไบเดน ภริยา มีกำหนดเข้ารับวัคซีนของไฟเซอร์ผ่านการถ่ายทอดสดในวันจันทร์ โดยไบเดนจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากเขามีอายุ 78 ปีแล้ว ทั้งนี้ โฆษกของทีมงานเตรียมการถ่ายโอนอำนาจของว่าที่ ปธน. ระบุว่า ว่าที่รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และดักลาส เอ็มฮอฟ สามีของเธอ จะเข้ารับวัคซีนในสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ พร้อมด้วยภริยา คาเรน เพนซ์ และเจอโรม อดัมส์ แพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ หรือ Surgeon General เข้ารับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ระหว่างการถ่ายทอดสดในกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทางฝั่งยุโรป มีประเทศที่ประกาศห้ามชาวอังกฤษเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในอังกฤษ
เมื่อวันอาทิตย์ ประเทศยุโรปอย่างน้อย 14 ประเทศ รวมทั้งเดนมาร์ค ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ เยอรมนี อิตาลี ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ประกาศห้ามเที่ยวบินจากอังกฤษเข้าประเทศ โดยฝรั่งเศสยังสั่งห้ามประชาชนจากอังกฤษเดินทางเข้าประเทศทางช่องแคบอังกฤษ ทำให้ประชาชนและพัสดุสิ่งของจำนวนมากตกค้างอยู่ที่เมืองท่าโดเวอร์ในอังกฤษ
ประเทศอื่นๆ ประกาศห้ามเที่ยวบินจากอังกฤษเข้าประเทศเช่นกัน เช่น แคนาดาที่ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะระงับเที่ยวบินจากอังกฤษเป็นเวลา 72 ชั่วโมง นอกจากนี้ อาร์เจนตินา ชิลี เอลซัลวาดอร์ อิหร่าน และอิสราเอล ก็ประกาศห้ามเที่ยวบินจากอังกฤษเข้าประเทศด้วย
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ มีกำหนดประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินในวันอังกฤษเกี่ยวกับการสั่งห้ามการเดินทาง โดยเมื่อวันเสาร์ ผู้นำอังกฤษได้ออกมาตรการใหม่ในกรุงลอนดอนและทางตอนใต้ของอังกฤษ ให้ปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น เช่น ยิม ร้านทำผม จำกัดจำนวนผู้คนที่ชุมนุมในอาคารได้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น
องค์การยาของสหภาพยุโรป หรือ EMA (European Medicines Agency) มีกำหนดการประชุมในวันจันทร์นี้เพื่อหารือว่า จะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอนเท็คได้เป็นการฉุกเฉินหรือไม่ โดย EMA เลื่อนกำหนดประชุมเร็วขึ้นจากเดิมหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเยอรมนีและประเทศสมาชิก EU อื่นๆ ทั้งนี้ หาก EMA อนุมัติให้ใช้วัคซีนดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนได้ในวันที่ 27 ธันวาคม
ทางด้านเกาหลีใต้ ทางการสาธารณสุขระบุว่า มียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 24 คน เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นยอดผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดเท่าที่เกาหลีใต้เคยมีมา ขณะนี้ เกาหลีใต้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 968 คน ผู้ติดเชื้อ 50,591 คน
ทางการเกาหลีใต้ประกาศห้ามชุมนุมเกินห้าคนในกรุงโซล จังหวัดคย็องกี และเมืองอินชอน โดยคำสั่งจะเริ่มมีผลในวันพุธไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม