เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสหรัฐฯเตรียมยกระดับความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยที่กรุงวอชิงตันและเขตใกล้เคียง เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ความไม่สงบใดๆที่อาจเกิดขึ้นสัปดาห์หน้าที่วุฒิสภาสหรัฐฯมีกำหนดพิจารณาว่า อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์มีความผิดหรือไม่ ในข้อกล่าวหายุยงให้เกิดความรุนเเรง
การดำเนินขั้นตอนดังกล่าวของวุฒิสภาเป็นงานที่สานต่อจากสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านญัตติขอถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเห็นว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯมีส่วนทำให้ผู้สนับสนุนเขาบุกยึดอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ทรัมป์แพ้ต่อโจ ไบเดน
การเพิ่มกำลังฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจมีขึ้น เนื่องจากทางการไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซำ้รอยการจลาจลวันที่ 6 มกราคม ที่มีผู้เสียชีวิต 5 ราย
เจ้าหน้าที่ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดด้านข่าวกรองว่ามีกกลุ่มบุคคลที่จะ่กอความไม่สงบหรือไม่ในสัปดาห์หน้า แต่มีการระบุถึงความเคลื่อนไหวออนไลน์ที่ก่อให้เกิดความกังวล
คริสโตเฟอร์ รอดริเกซ ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงและบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินของกรุงวอชิงตันกล่าวว่า ทางการต้องเพิ่มความพร้อมอย่างให้มากกว่าปกติอย่างชัดเจนเพื่อป้องปรามผู้วางเเผนสร้างความปั่นป่วน
หลังจากเหตุการณ์จลาจลบุกรัฐสภา เจ้าหน้าด้านความมั่นคงยกระดับการรักษาความสงบอย่งเต็มที่เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่นายโจ ไบเดนทำพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
และในสัปดาห์ที่จะมาถึงที่จะมีกระบวนการพิจารณาความผิดของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระดับการดูเเลด้านความมั่นคงก็จะกลับมาอีกครั้ง ทั้งการปิดถนนและตั้งรั้วรักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่
กองทัพบกสหรัฐฯประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าในจำนวนทหารกำลังสำรอง 27,000 คนที่ถูกเรียกมาประจำการที่กรุงวอชิงตันสำหรับงานพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี ของโจ ไบเดน ราว 7,000 คนจะยังคงทำหน้าที่ต่อในนครหลวงของสหรัฐฯ ไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม