ลิ้งค์เชื่อมต่อ

หุ้นอะแรมโกดิ่งหนัก หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มกองกำลังสหรัฐฯ และพันธมิตร


FILE - An Aramco oil tank is seen at the production facility at Saudi Aramco's Shaybah oilfield in the Empty Quarter, Saudi Arabia, May 22, 2018.
FILE - An Aramco oil tank is seen at the production facility at Saudi Aramco's Shaybah oilfield in the Empty Quarter, Saudi Arabia, May 22, 2018.
please wait

No media source currently available

0:00 0:08:29 0:00

ราคาหุ้นของบริษัทพลังงาน Saudi Aramco (ซาอุดิ อะแรมโก) ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ทันที ที่ 34 ริยัล หลังตลาดหุ้นซาอุเปิดทำการเช้าวันพุธ โดยมีสาเหตุหลัก จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ที่พุ่งขึ้น เมื่อ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีมากกว่า 10 ลูก ใส่กองกำลังทหารสหรัฐฯ และพันธมิตร ในอิรัก เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์จาก Capital Economics ให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นบริษัทพลังงาน ของทางการซาอุดิอาระเบียแห่งนี้ ปรับลงมาเรื่อยๆ ในระยะที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนเริ่มจับตาดูศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทใกล้ชิดขึ้น ขณะที่กระแสบวกในช่วงที่นำหุ้นออกมาขายต่อสาธารณชนครั้งแรก หรือ ไอพีโอ เริ่มลดลง

นอกจากนั้น การปรับตัวลงของราคาหุ้น Aramco ในวันพุธก็เป็นไปตามกระแสโดยรวมของตลาดหุ้นในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ที่อ่อนตัวลงถ้วนหน้าเช่นกัน

นับตั้งแต่ทำการซื้อขายวันแรก เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้น Aramco ปรับตัวลงไปแล้วเกือบ 12% จากสถิติสูงสุดที่ 38.70 ริยัล มาปิดที่ 34.20 ริยัลในวันพุธ แต่ก็ยังสูงกว่า ราคาไอพีโอที่ 32 ริยัล

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายราย เชื่อว่า ราคาหุ้น Aramco น่าจะมีโอกาสปรับขึ้นหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐฯ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กำลังทางทหารเพื่อโจมตีอิหร่าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะคลี่คลายความตึงเครียดจากวิกฤติครั้งนี้ของสหรัฐฯ

แม้ Saudi Aramco ระดมทุนได้ถึง 25,600 ล้านดอลลาร์ จากการทำไอพีโอ แซงหน้าเจ้าของสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือ Alibaba Group (อาลีบาบา กรุ๊ป) ที่ระดมทุนได้ 24,000 ล้านจากการเข้าซื้อขายในตลาดเมื่อปี 2014 แต่นักลงทุนต่างชาติได้ออกมาแสดงความไม่แน่ใจ เกี่ยวกับการประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัทนี้

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โรงงานของ Aramco ถูกปิดไปชั่วคราว ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบสำรองรวมหายไป 5.7 ล้านบาร์เรล หรือกว่า 5% จากเหตุโจมตี ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็โทษว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน แต่อิหร่านก็ออกมาปฏิเสธ

XS
SM
MD
LG