ผู้ตรวจการโครงการนิวเคลียร์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือน่าจะเริ่มกลับมาเปิดโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมอีกครั้งหนึ่งแล้ว หลังตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมจากพื้นที่ที่เคยเป็นสถานที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของกรุงเปียงยาง
โอลลี ไฮโนเนน อดีตรองผู้อำนวยการใหญ่ ของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ภาคภาษาเกาหลีว่า ภาพถ่ายดาวเทียมของโรงงานนิวเคลียร์ ยองบยอน ในเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นว่า ส่วนปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะแร่ยูเรเนียม (uranium enrichment plant – UEP) ของโรงงานแห่งนี้เริ่มกลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้ว
การประเมินของ ไฮโนเนน ครั้งนี้มีขึ้น เป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำของประชาคมโลกว่า เกาหลีเหนือยังมีความสามารถในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อยู่
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กรุงเปียงยางยิงทดสอบขีปนาวุธไปถึง 11 ลูก ซึ่งรวมถึง ขีปนาวุธพิสัยกลางที่ทดสอบไปเมื่อวันที่ 30 มกราคม และมีความสามารถเดินทางไปได้ไกลถึงบริเวณเกาะกวม ซึ่งเป็นเขตปกครองของสหรัฐฯ ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศว่า ตนกำลังพิจารณายกเลิกแผนพักการพัฒนานิวเคลียร์ที่ตนตัดสินใจดำเนินการด้วยตนเองอยู่
ไฮโนเนน กล่าวว่า การที่หิมะบนหลังคาของอาคารหลายแห่งในโรงงานในยองบยอน ที่เป็นส่วนงาน UEP ชี้ให้เห็นว่า มีการปล่อยความร้อนออกมาจากตัวโรงงานที่มีการใช้งานอยู่
วีโอเอ ภาคภาษาเกาหลี ส่งอีเมล์ไปยังหน่วยงานดูแลเกาหลีเหนือ ขององค์การสหประชาชาติ เพื่อข้อความเห็นในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา ขณะจัดทำรายงานข่าวนี้
ทั้งนี้ อดีตรองผู้อำนวยการใหญ่ IAEA กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า สัญญาณที่สำคัญที่สุดจากภาพถ่ายดาวเทียมก็คือ การละลายของหิมะในพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องควบคุมและสถานีป้อนและเบิกสารประกอบ ยูเรเนียม เฮกซะฟลูออไรด์ จากห้องเสริมสมรรถนะ และระบุว่า พื้นที่เหล่านี้จะร้อนขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเปิดทำการโรงงานส่วนนี้เท่านั้น
ยูเรเนียมเฮกซะฟลูออไรด์ เป็นสารประกอบยูเรเนียมที่ใช้ในกระบวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
รายงานของ IAEA ที่มีออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว ระบุว่า เกาหลีเหนือยังไม่ได้เริ่มกระบวนการ UEP อีกครั้ง แม้ว่า จะมีการเปิดใช้งานเครื่องปฏิกรณ์ผลิตแร่พลูโตเนียม กำลัง 5 เมกะวัตต์ แล้วก็ตาม
ภายหลังได้รับรายงานเรื่องนี้ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เกาหลีใต้กำลังเฝ้าจับตาและติดตามประเด็นการกลับมาเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของเกาหลีเหนืออยู่ ขณะที่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้หนึ่งกล่าวว่า เกาหลีเหนือ เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งสันธิสัญญาการป้องกันการเผยแพร่อาวุธปรมาณูโลกด้วย พร้อมระบุว่า “สหรัฐฯ มีส่วนได้ส่วนเสียอันสำคัญยิ่ง ที่จะยับยั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ..ป้องกันภัยจากการยั่วยุหรือการใช้กำลังต่างๆ .. จำกัดการเข้าถึงโครงการพัฒนาอาวุธที่อันตรายที่สุด และเหนือสิ่งอื่นใด ทำให้ชาวอเมริกันทั้งหลาย กองกำลังที่เคลื่อนพลไปประจำจุดต่างๆ และพันธมิตรของเรา อยู่รอดปลอดภัย”