เครื่องบินขับไล่รัสเซียบินเฉียดใกล้โดรน MQ-9 Reapers ของกองทัพสหรัฐฯ เหนือน่านฟ้าซีเรีย เมื่อวันพฤหัสบดี นับเป็นการบินเฉียดใกล้อากาศยานอเมริกันของกองทัพรัสเซียรอบที่ 2 ในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตามรายงานของเอพี
กองทัพอากาศสหรัฐฯ เผยคลิปวิดีโอ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพุธและวันพฤหัสบดี โดยเหตุการณ์แรกในวันพุธ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณน่านฟ้าทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เมื่อเครื่องบินขับไล่ SU-35 ของกองทัพรัสเซียบินเข้าใกล้โดรนสหรัฐฯ และหนึ่งในนักบินรัสเซียกลุ่มนี้ขับเครื่องบินเข้ามาด้านหน้าของโดรนและเข้าปะทะบริเวณไอพ่นของโดรน ซึ่งเป็นการเพิ่มความเร็วและแรงดันอากาศในบริเวณนั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวสามารถทำลายระบบไฟฟ้าของโดรนและส่งผลต่อการควบคุมโดรนได้
และหลังจากนั้น เครื่องบินรบรัสเซียยิงพลุที่ติดตัวพลร่มด้านหน้าโดรนสหรัฐฯ ซึ่งทำให้โดรนต้องบินหลบไป ตามการเปิดเผยของพลเอกอเล็กซัส กรินเควิช (Alexus Grynkewich) ผู้บัญชาการกองทัพอากาศหน่วยที่ 9 ในตะวันออกกลาง
ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นในเวลา 9.30 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เครื่องบินรัสเซียยิงพลุที่ติดตัวพลร่มด้านหน้าโดรนสหรัฐฯ และบินเข้าใกล้ในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ โดรนสหรัฐฯ ไม่ได้มีการติดอาวุธใด ๆ และมักใช้ในภารกิจลาดตระเวนโดยทั่วไป
พลเอกกรินเควิช เปิดเผยในแถลงการณ์ด้วยว่า “เราขอให้กองทัพรัสเซียในซีเรียยุติพฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิดนี้และปฏิบัติตามมาตรฐานของกองทัพอากาศที่เป็นมืออาชีพ เพื่อให้เราสามารถกลับไปใส่ใจการเอาชนะกลุ่ม ISIS ได้”
ด้านโฆษกกองทัพอากาศสหรัฐฯ ประจำกองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลาง ระบุว่า “การคุกคามของรัสเซียรวมทั้งการบินเฉียดใกล้ โดยเครื่องบินขับไล่ SU-34 และ SU-35 และการยิงพลุที่ติดตัวพลร่มด้านหน้าโดรน MQ-9 Reapers ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ดังนั้นมันไม่ใช่การบินเฉียดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและขาดความเป็นมืออาชีพมากกว่า”
ด้านพลเอกไมเคิล เอริค คูริลลา ผู้บัญชาการกองทัพบกสหรัฐฯ ประจำกองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลาง ระบุในแถลงการณ์ว่าท่าทีดังกล่าวของรัสเซียบริเวณน่านฟ้าซีเรีย “เพิ่มความเสี่ยงต่อการยกระดับ(ความขัดแย้ง)หรือการคำนวณผิดพลาด”
ปัจจุบัน มีทหารสหรัฐฯ 900 นายที่ประจำการในซีเรีย เพื่อแนะนำและช่วยเหลือกองกำลังชาวเคิร์ดในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS แต่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการโดรนสหรัฐฯ ในพื้นที่ดังกล่าว
- ที่มา: เอพี