สี่ปีหลังจากการเตือนภัยและเตรียมการต่อต้านการเเเทรกแซงของรัสเซียต่อการเลือกตั้งอเมริกัน หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ มั่นใจว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อปี ค.ศ. 2016 ที่รัสเซียสามารถเจาะล้วงระบบข้อมูลและขยายอิทธิพลต่อกระบวนการประชาธิปไตยอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่ารัสเซียยังคงพยายามขยายปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารในรูปแบบที่แยบยลกว่าในอดีต
จากเดิมที่รัสเซียใช้บัญชีโซเชี่ยลมีเดียปลอมสร้างเนื้อหาและเผยเเพร่ข้อมูล ปัจจุบันกลวิธีใหม่ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อชี้นำความคิดในสังคมอเมริกัน เช่น การแทรกซึมเข้าไปในวงการข่าวและสื่อสังคมออนไลน์ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มขวาจัดและซ้ายจัดในอเมริกา
เอวานา ฮู ซีอีโอ ขององค์กร Omelas ที่ศึกษาเกี่ยวกับความคิดสุดโต่งออนไลน์ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า วิธีการลักษณะนี้ของรัสเซียสามารถสร้างความสนใจและมีปฏิกิริยาตอบโต้บนสื่อออนไลน์โดยผู้ใช้สื่อจำนวนนับล้านคน
เธอบอกว่าโพสต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อกระตุ้นความรู้สึก ทั้งทางบวกและทางลบต่อเป้าหมาย
องค์กรของเธอซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน วิเคราะห์เนื้อหาที่รัสเซียปล่อยออกมาบนสื่อสังคมไลน์ 1 ล้าน 2 แสนโพสต์บน 11 แพลตฟอร์มช่วง 90 วัน ก่อนและหลังวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 พฤศจิกายน
องค์กร Omelas พบว่าสื่อของรัสเซียที่ปล่อยข้อมูลออกมามากในอันดับต้นๆ ได้เเก่ RT, Sputnik, TASS และ Izvestia TV
Omelas ระบุว่า ในบรรรดาโพสต์ต่างๆ ของสื่อรัสเซียมีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ที่เป็นภาษาอักฤษ โดยร้อยละ 40 เป็นภาษารัสเซีย ส่วนที่เหลือได้เเก่ภาษาต่างประเทศ เช่น สเปน และอาราบิก เป็นต้น
ตามปกติเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มักไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อคนอเมริกันจากปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารของรัสเซีย
อย่างไรก็ตามในรายงานเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ หน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ชื่อ Global Engagement Center ระบุว่า รัสเซียลงทุนมหาศาลในกิจกรรมโฆษณาชวนเชื่อช่องทางต่างๆ ทั้งในรูปแบบของสื่อ และกลยุทธ์ข่าวกรอง รวมถึงการดำเนินการอยู่เบื้องหลังองค์กรตัวแทน
คลินท์ วัตต์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอที่เชี่ยวชาญเรื่องยุทธวิธีด้านข้อมูลข่าวสารของรัสเซีย กล่าวว่า ฝ่ายรัสเซียสร้างความกลมกลืนในวงการข่าวสารอเมริกัน ด้วยการปล่อยข้อมูลบนสื่อออนไลน์หลักๆของสหรัฐฯ
เขายกตัวอย่าง ช่องข่าวของทางการรัสเซียที่ชื่อ Redfish บนอินสตาแกรม ที่ได้รับความนิยม โดยมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมหลายแสนคน
คลินท์ วัตต์กล่าวว่าการผสมกลมกลืนอยู่ในระบบข่าวสารของสหรัฐฯ ทำให้ผู้รับสารในอเมริกาจำนวนมากอาจไม่ทราบว่า Redfish คือสื่อรัสเซีย
นอกจากนี้รัสเซีย ยังมีสื่อตัวแทนที่ยิ่งดูยากยิ่งขึ้นว่ารัฐบาลเครมลินเป็นผู้ควบคุมอยู่เบื้องหลัง
ในรายงานของศูนย์ Global Engagement Center แห่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ การศึกษาพบว่า สื่อออนไลน์แคนาดา Global Research และ เว็บไซต์ของ Strategic Culture Foundation ต่างโยงใยกับรัสเซีย และเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนในลักษณะทฤษฎีสมคบคิด เช่น เนื้อหาที่เกี่ยวกับโคโรนาไวรัส
เมื่อเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่และสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เตือนว่าสื่อ RT ของรัสเซีย มุ่งหมายที่จะจูงใจให้บุคลากรอเมริกันในวงการตำรวจ และสหภาพแรงงาน แสดงปฏิกิริยาทางใดทางหนึ่งต่อการประท้วงที่เกิดขึ้นในอเมริกา โดยมุ่งหวังที่จะเติมเชื้อไฟให้กับความขัดแย้งในประเทศ
วิลเลียม อิวานินา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวกรอง National Counterintelligence and Security Center ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อเดือนตุลาคมว่า รัสเซียดำเนินการให้คนอเมริกันช่วยกันแพร่ข่าวต่างๆ ที่ตนต้องการ โดยที่ฝ่ายรัสเซียไม่ต้องเป็นผู้โหมกระแสด้วยตนเอง