เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ประกาศระงับการใช้งานของเครือข่ายบัญชีผู้ใช้งานและเพจต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานวิจัยอินเตอร์เน็ตของรัสเซีย เพื่อป้องกันความน่าจะเป็นที่จะมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทวิตเตอร์ประกาศว่า บริษัทได้ระงับการใช้งานของบัญชีผู้ใช้งาน 5 บัญชีที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานดังกล่าว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “โรงงานโทรลล์” หรือ ที่ผลิตกลุ่มผู้ก่อกวนทางอินเตอร์เน็ต โดยทวิตเตอร์กล่าวว่า ข้อความทวีตที่มาจากบัญชีที่มีความสัมพันธ์กับรัสเซียนั้นเป็นพวก“คุณภาพต่ำและเป็นข้อความขยะ” ที่ผู้ได้รับส่วนใหญ่ไม่กด “ไลค์” หรือทวีตส่งต่อเท่าใด
รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังบัญชีใช้งานเหล่านี้เกณฑ์ผู้สื่อข่าวอิสระที่ “ไม่รู้เท่าทัน” มาโพสต์ข้อความภาษาอังกฤษและภาษาอาหรับ เพื่อส่งไปยังผู้รับซึ่งเป็นกลุ่มเอียงซ้ายเป็นหลัก
นอกจากนั้น ทวิตเตอร์ จะเริ่มเพิ่มรายละเอียดและบริบทเติมเข้าไปในข้อมูลเทรนดิ้ง ที่บอกผู้ใช้งานว่าหัวข้อใดได้รับความนิยมสูงสุดในแต่ละช่วงเวลา หลังผู้เชี่ยวชาญและพนักงานของทวิตเตอร์เองแสดงความกังวลว่า อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีใช้หน้าข้อมูลเทรนดิ้งเพื่อกระจายข่าวสารที่ผิดๆ ได้
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก เปิดเผยในวันอังคารว่า ทางบริษัทกำลังให้ความใส่ใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ อังกฤษ อัลจีเรีย อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก รวมทั้งหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนืออยู่ในเวลานี้
เฟซบุ๊ก กล่าวว่า ตนเริ่มทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ใช้งานนี้ ตามข้อมูลที่สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ส่งมาให้ และพบว่าเครือข่ายที่ว่านี้ เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาไม่นานและยังไม่ค่อยมีผู้ใช้งานเข้ามาร่วมมากนักก่อนที่จะถูกทีมงานของบริษัทลบออกไป
บริษัทเปิดเผยว่า เครือข่ายต้องสงสัยนี้ มีบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอยู่ 13 บัญชีและมีเพจอีก 2 เพจ ขณะที่มีผู้ติดตามบัญชีหรือเพจเหล่านี้รวมกันประมาณ 14,000 ราย โดยส่วนใหญ่ไปติดตามบัญชีหรือเพจที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม การค้นพบเครือข่ายน่าสงสัยนี้ชี้ให้เห็นว่า มีความพยายามจากรัสเซียที่จะป่วนการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ด้วยการส่งข้อมูลที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในหมู่ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ และรายงานข่าวระบุว่า ผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามนี้ เลือกที่จะเกณฑ์คนอเมริกันที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนหลอก ให้มาร่วมงานและทำหน้าที่ซื้อพื้นที่โฆษณาด้านการเมืองในสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกตรวจจับได้
เฟซบุ๊ก กล่าวว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่ายผู้ใช้งานดังกล่าวมักโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ เหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลก เช่น ความอยุติธรรมด้านเชื้อชาติในสหรัฐฯ และในอังกฤษ และทฤษฏีสมคบคิด QAnon รวมทั้งโครงการหาเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน เป็นต้น โดยมีการจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาบนเฟซบุ๊กไปประมาณ 480 ดอลลาร์ แต่มีโฆษณาที่มีมูลค่าไม่ถึง 2 ดอลลาร์เท่านั้น ที่มุ่งเป้ามาที่ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ FBI ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ที่เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานได้ส่งมอบข้อมูลให้กับผู้พัฒนาสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ “เพื่อให้ช่วยระวังป้องกันภัยคุกคามต่อความมั่นคงและกระบวนการทางประชาธิปไตยของประเทศ” ขณะที่ FBI เดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับภัยดังกล่าวด้วยเช่นกัน