สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีเปิดเผยรายงานการสืบสวนหาความจริง กรณีที่นักข่าวรายหนึ่งเสียชีวิตและอีก 6 คนได้รับบาดเจ็บ จากการโจมตีทางตอนใต้ของเลบานอน
รายงานทั้งของรอยเตอร์และเอเอฟพีระบุว่านักข่าวกลุ่มนี้ถูกโจมตีโดยกระสุนของรถถังอิสราเอล
สื่อทั้งสองแห่งทำการตรวจสอบโดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ในการวิเคราะห์เหตุการณ์จากภาพวิดีโอ ภาพจากดาวเทียมและข้อมูลจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเศษชิ้นส่วนกระสุน 120 มม. สำหรับรถถังที่มีเพียงกองทัพอิสราเอลเท่านั้นที่ใช้ ในหตุการณ์ดังกล่าว
ความสูญเสียครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่กลุ่มนักข่าวไปเก็บภาพการสู้รบข้ามพรมเเดนระหว่างอิสราเอลและนักรบปาเลสไตน์ ใกล้หมู่บ้าน อัลมา อัล-ชาบของเลบานอน
นักข่าวของรอยเตอร์ที่ชื่อ อิสซาม อับดัลลาห์ เสียชีวิต นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวสังกัดเดียวกัน 2 คนและนักข่าวอีกรายหนึ่งของเอเอฟพีได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าทั้งหมดระบุตัวตนอย่างชัดเจนว่าเป็นสื่อ และสวมแจ็คเก็ตกันกระสุนและหมวกป้องกัน
ขณะที่ผู้บริหารสื่อทั้งสองแห่งประณามเหตุการณ์นี้ และเรียกร้องคำอธิบายจากอิสราเอล โฆษกกองทัพอิสราเอลริชาร์ด เฮชต์กล่าวว่า "เราไม่ได้พุ่งเป้าไปที่นักข่าว" ตามรายงานของรอยเตอร์
นอกจากการตรวจสอบหาความจริงโดยสื่อทั้งสองแห่งแล้ว หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนอีกสองแห่งคือ Human Rights Watch และ Amnesty International ยังได้เก็บข้อมูลและตรวจสอบเรื่องนี้
Human Rights Watch กล่าววันพฤหัสบดีว่า นักข่าวได้เว้นระยะห่างจากพื้นที่การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาไม่ได้เคลื่อนที่ไปที่อื่นอย่างน้อย 75 นาทีก่อนที่ถูกยิงใส่สองครั้งติดต่อกัน
หน่วยงานดังกล่าวระบุว่า การโจมตี "ดูเหมือนว่าเป็นการโจมตีอย่างจงใจต่อพลเรือน ซึ่งเป็นอาชญากรรมสงคราม"
ส่วน Amnesty International กล่าวคล้ายคลึงกันว่าเป็นการโจมตีต่อพลเรือนโดยตรงและเหตุการณ์นี้ควรถูกตรวจสอบในฐานะอาชญากรรมสงคราม
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์ และเอเอฟพี