คณะทำงานของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ International Committee of the Red Cross (ICRC) มีแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีว่า จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนยูเครนสามารถอพยพออกจากเมืองมาริอูโพลได้อย่างปลอดภัย หลังจากมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวภายในเมืองดังกล่าว
แถลงการณ์ของ ICRC ระบุว่า จะเป็นผู้นำในการอพยพประชาชนออกจากเมืองมาริอูโพลในวันศุกร์นี้ ตามที่ทุกฝ่ายได้ตกลงกันในเงื่อนไขต่าง ๆ รวมทั้งเส้นทางอพยพ เวลาเริ่มต้น และระยะเวลาที่ใช้ พร้อมยืนยันว่า ภารกิจนี้เป็นส่ิงสำคัญในการรักษาชีวิตประชาชนหลายหมื่นคนในเมืองมาริอูโพล
รองนายกรัฐมนตรียูเครน ไอรีนา เวเรชชุค กล่าวว่า รถโดยสารหลายสิบคันจะทยอยนำประชาชนออกจากเมืองมาริอูโพล หลังจากที่กองทัพรัสเซียตกลงหยุดการโจมตีชั่วคราวตั้งแต่ช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น
เมื่อวันพุธ รองนายกฯ เวเรชชุค กล่าวว่า รัสเซียและยูเครนตกลงเปิดระเบียงลี้ภัยสามจุด โดยจุดแรกจะใช้เพื่อการลี้ภัยจากเมืองมาริอูโพล และส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเมืองแบร์เดียนสก์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมาริอูโพลราว 85 กิโลเมตร
ระเบียงลี้ภัยจุดที่สองอยู่ที่เมืองเมลิโทโพล โดยใช้เพื่อส่งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการอพยพ ส่วนระเบียงลี้ภัยที่สามใช้เพื่อการเดินทางระหว่างเมืองเอเนอร์โฮดาร์และเมืองซาพอริชเชีย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้โจมตีทำลายโกดังของ ICRC เมื่อวันพุธ ซึ่งทาง ICRC ใช้โกดังแห่งนั้นในการแจกจ่ายความช่วยเหลือและเสบียงต่าง ๆ แก่ประชาชนตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ของ ICRC อยู่ที่นั่น
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องบริเวณรอบกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ หนึ่งวันหลังจากที่ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าละเมิดคำสัญญาว่าจะลดการโจมตี
กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพรัสเซียยังคงใช้ปืนใหญ่และขีปนาวุธโจมตีใส่เมืองเชอร์นิฮิฟอย่างต่อเนื่อง และยังประจำการอยู่ทางภาคตะวันตกและตะวันออกของกรุงเคียฟ แม้จะมีการถอนกำลังบางส่วนออกไปอย่างจำกัด
ส่วนที่เมืองมาริอูโพล ยังคงมีการต่อสู้อย่างหนักระหว่างทหารของสองฝ่ายแต่ยูเครนยังคงควบคุมเมืองท่าแห่งนี้เอาไว้ได้
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวทางวิดีโอในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพยูเครนกำลังเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีจากรัสเซียในแคว้นดอนบาสทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศที่เชื่อว่าจะรุนแรงขึ้นหลังจากที่รัสเซียเริ่มลดการโจมตีรอบกรุงเคียฟลง
เมื่อวันพุธ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับปากกับประธานาธิบดีเซเลนสกีว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือโดยตรงในรูปงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์แก่รัฐบาลยูเครนด้วย
