สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศออกมาเตือนว่า ภาวะสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อหนักจะส่งผลกระทบร้ายแรงในด้านมนุษยธรรมต่อวิกฤตอื่น ๆ ที่ดำเนินอยู่ทั่วโลก
เจ้าหน้าที่สหพันธ์สภากาชาดระหว่างประเทศกล่าวว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อคนจนจำนวนหลายล้านคนทั่วโลกจะรุนแรงหนักขึ้นไป หากสงครามที่เริ่มต้นจากการรุกรานของกองทัพรัสเซียเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาลากยาวต่อไป
ทั้งนี้ ยูเครนคือหนึ่งในผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลกก่อนที่สงครามครั้งนี้จะปะทุขึ้นมา และก่อนที่ฝ่ายรัสเซียจะทำการปิดกั้นเส้นทางขนส่งผ่านทะเลดำที่ทำให้การส่งออกเมล็ดธัญพืชต้องหยุดชะงักลง และนำมาซึ่งวิกฤตอาหารโลก ขณะที่ ราคาเชื้อเพลิงและอาหารที่พุ่งสูงยังทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ มีราคาแพงจนหลายคนไม่สามารถหาซื้อได้ และผู้คนหลายล้านคนต้องตกอยู่ในภาวะหิวโหยฉับพลัน
และแม้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติประสบความสำเร็จในการช่วยเจรจาให้มีการส่งออกธัญพืชออกจากยูเครนได้อีกครั้ง สหพันธ์สภากาชาดระหว่างประเทศกล่าวว่า ผลกระทบของสงครามยังคงมีอยู่ต่อไปและจะต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะคลี่คลายลงได้
บริจิตต์ เอบเบเซน ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ กล่าวว่า ความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนั้นยังคงเป็นปัญหาที่ยังต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วนอยู่ โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
รายงานข่าวระบุว่า อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์กาชาดระหว่างประเทศจำนวนกว่า 100,000 คนได้เดินทางเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน รวมทั้งประเทศที่มีพรมแดนติดกันอีก 7 ประเทศและประเทศอื่น ๆ อีก 17 ประเทศในเวลานี้แล้ว
นอกจากนั้น กาชาดสากลยังระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของประชากรจำนวน 44 ล้านคนของยูเครนยังจะต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเวลาอีกนาน แม้หลังภาวะขัดแย้งนี้จะสิ้นสุดลงไป เพราะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นต่ออาคารบ้านเรือนในเมืองต่าง ๆ และอีกหลายปีในการฟื้นฟูภาวะความปวดร้าวและอาการบาดเจ็บทางจิตใจ รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสภาวะทางกายภาพและทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสงครามครั้งนี้
- ที่มา: วีโอเอ
