ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์ของรัสเซียซึ่งออกอากาศในวันอาทิตย์ ระบุว่า รัสเซียพร้อมเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน แต่เป็นทางยูเครนและชาติตะวันตกที่ปฏิเสธการเจรจาดังกล่าว
ปูตินกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ Rossiya 1 ของทางการรัสเซียว่า "เราพร้อมที่จะเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายใต้เงื่อนไขที่ยอมรับได้ แต่นั่นขึ้นอยู่กับพวกเขา เราไม่ใช่ฝ่ายที่ปฏิเสธการเจรจา"
ผู้นำรัสเซียยืนยันด้วยว่า ตนทำถูกต้องแล้วในยูเครนเพื่อปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของรัสเซียและประชาชนรัสเซีย เนื่องจากชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ พยายามที่จะแบ่งแยกรัสเซียเป็นหลายส่วน โดยปูตินระบุว่า "ไม่มีทางเลือกอื่น" นอกจากการปกป้องประชาชน
และเมื่อถูกถามว่า ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์กับชาติตะวันตกในขณะนี้กำลังก้าวไปสู่ระดับอันตรายแล้วหรือไม่ ปูตินตอบว่า "ไม่คิดว่าจะอันตรายมากนัก"
ก่อนหน้านี้ วิลเลียม เบินส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ความขัดแย้งส่วนใหญ่ยุติลงได้ด้วยการเจรจา แต่ซีไอเอประเมินแล้วว่ารัสเซียมิได้จริงจังในการต่อรองเพื่อยุติสงครามครั้งนี้
ทางด้าน มีไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า รัสเซียเองที่เป็นฝ่ายบุกโจมตีและสังหารประชาชนยูเครน และว่า ปูตินจำเป็นต้องกลับสู่ความจริงที่ว่ารัสเซียเองที่เป็นฝ่ายไม่ต้องการเจรจาและพยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
ปธน.ปูติน ยังได้ตอบการสัมภาษณ์ว่า ชาติตะวันตกเริ่มสร้างความขัดแย้งในยูเครนเมื่อปี 2014 ด้วยการขับไล่ประธานาธิบดียูเครนผู้สนับสนุนรัสเซีย ลงจากตำแหน่ง หลังจากนั้นรัสเซียจึงได้เดินหน้าควบรวมแคว้นไครเมียจากยูเครน และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนที่รัสเซียให้การสนับสนุนก็เริ่มการต่อสู้ครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกของยูเครน
ปูตินกล่าวว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน" คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการยืนหยัดของรัสเซียเพื่อต่อต้านชาติตะวันตกที่พยายามบ่อนทำลายรัสเซียมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียตล่มสลาย
ผู้นำรัสเซียประกาศด้วยว่า รัสเซียคือ "ประเทศที่มีเอกลักษณ์" ที่ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่พร้อมทุ่มเททุกอย่างและร่วมมือร่วมใจกันปกป้องมาตุภูมิของพวกเขา
- ที่มา: รอยเตอร์