ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงมอสโกในวันจันทร์ เพื่อเริ่มกำหนดการเยือนรัสเซียเป็นเวลาสามวัน โดยจะพบกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อหารือเรื่องสงครามในยูเครน และความพยายามของจีนในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้เกิดการเจรจาสันติภาพ
เมื่อเดือนที่แล้ว จีนเสนอ แผน 12 ขั้น เพื่อนำไปสู่การยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
และในวันจันทร์ หนังสือพิมพ์ของทางการรัสเซีย Rossiiskaya Gazeta ตีพิมพ์บทความของประธานาธิบดีสี ที่ระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวของจีนแสดงให้เห็นถึง "ความเป็นเอกภาพในมุมมองของประชาคมโลกอย่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้" อ้างอิงจากคำแปลภาษาอังกฤษของบทความดังกล่าว โดยฝ่ายภารกิจจีนของสหประชาชาติ
"เอกสารนี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการสร้างความเป็นกลางจากผลกระทบของวิกฤต (ในยูเครน) และสนับสนุนการระงับข้อพิพาททางการเมือง ปัญหาที่ซับซ้อนมิได้แก้ไขด้วยวิธีง่าย ๆ" ปธน.สี ระบุ
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ People's Daily ของทางการจีน รายงานคำพูดของประธานาธิบดีปูตินในวันจันทร์ว่า “เรายินดียิ่งต่อการวางตัวอย่างสมดุล (ของจีน) เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน และต่อความเข้าใจถึงความเป็นมาและสาเหตุที่แท้จริง" อ้างอิงจากสำนักข่าวเอพี
"เรายินดียอมรับความประสงค์ของจีนที่ต้องการมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้" ปูตินกล่าว
ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่า ปธน.สีและปธน.ปูติน มีกำหนดหารืออย่างไม่เป็นทางการแบบตัวต่อตัวในการร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันจันทร์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสองจะร่วมประชุมกันในวันอังคาร
การเดินทางเยือนรัสเซียครั้งนี้เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของปธน.สี หลังได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้นำจีนคนใดมาก่อน และสะท้อนภาพความพยายามของปักกิ่งและมอสโกที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน หลังประกาศยกระดับการเป็นหุ้นส่วน “ไร้ขีดจำกัด” ตั้งแต่ก่อนรัสเซียบุกยูเครน
ความพยายามของจีนที่จะยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของกรุงปักกิ่งที่เพิ่งช่วยทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาข้อตกลงระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านให้สามารถกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันได้อีกครั้ง และหลังนำเสนอ “แผนสันติภาพ” ให้ยูเครนพิจารณาเพื่อหาทางออกให้กับสงครามที่เกิดจากการรุกรานของกองทัพมอสโกและดำเนินมากว่า 1 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี มีกำหนดหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี ทันทีหลังจากที่ผู้นำจีนพบหารือกับประธานาธิบดีปูตินที่กรุงมอสโกแล้ว
นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวว่า ช่วงเวลาการเยือนกรุงมอสโกของผู้นำจีน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับผู้นำรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า จีนไม่ได้คิดว่าตนมีหน้าที่ที่ต้องทำให้รัสเซียรับผิดชอบต่อความเลวร้ายที่กระทำไว้ในยูเครน และแทนที่จะออกมาประณามการกระทำของรัฐบาลกรุงมอสโก จีนกลับเลือกที่จะให้ "การคุ้มครองทางการทูต" เพื่อให้รัสเซียเดินหน้าก่ออาชญากรรมสงครามต่อไป
- ที่มา: วีโอเอ - เนื้อหาบางส่วนจากเอพีและรอยเตอร์