ในยุครุ่งเรืองของตระกูลมากอสแห่งฟิลิปปินส์ คนจำนวนมากยังคงจำได้ถึงการปกครองประเทศที่ยาวนานกว่า 20 ปีของประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส และชีวิตที่ฟู่ฟ่าของภริยา นางอิเมลด้า
ขณะนี้ลูกชายคนเดียวของครอบครัว เฟอร์ดินาน “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ กำลังเตรียมลงเลือกตั้งทั่วไปในตำแหน่งรองประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ วันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันจันทร์สัปดาห์หน้า
“บองบอง” มาร์กอส มีคะแนนคู่คี่ เลนี่ โลบรีโด้ ส.ส. หญิงจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมาจากพรรครัฐบาลปัจจุบัน
“บองบอง” วัย 58 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดของอังกฤษ เขาสั่งสมประสบการณ์การเมืองมา 20 ปี ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก
หากเขาชนะการเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในวันจันทร์ โอกาสที่ในอนาคตเขาจะลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะมีมากขึ้น
คนฟิลิปปินส์ยังไม่ลืมความเสียหายทางเศรษฐกิจและปัญหาคอร์รัปชั่นจากครอบครัวมาร์กอส ในสมัยที่ประธานาธิบดีมาร์กอสปกครองประเทศแบบเผด็จการ ซึ่งในช่วงนั้นมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง
แต่คนจำนวนไม่น้อยสามารถแยกแยะอดีตของครอบครัวกับความชื่นชอบในตัว “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ ได้
เดนิส พารีจา พนักงานบริษัทขนส่งทางเรือ กล่าวว่าตนเชื่อว่า “บองบอง” แตกต่างจากพ่อของเขา และจะไม่ทำผิดแบบเดียวกับอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส เธอเชื่อว่า “บองบอง” มาร์กอส ต้องการช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศ และเชื่อว่านโยบายของเขาจะดีต่อแรงงานฟิลิปปินส์
ทั้งนี้การเลือกตั้งของฟิลิปปินส์แบ่งการลงคะแนนประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีอย่างชัดเจน ดังนั้นหลังการเลือกตั้ง ผู้นำอันดับหนึ่งและสองของประเทศไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคเดียวกัน
เมื่อ “บองบอง” มาร์กอส ถูกถามว่าครอบครัวของตนควรขอโทษต่อประชาชนเรื่องการใช้อำนาจในทางที่ผิดของพ่อของเขาหรือไม่ ทายาทตระกูลมาร์กอสผู้นี้กล่าวว่าตนจะไม่ขอโทษในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ
เฟอร์ดินาน มาร์กอส ถูกโค่นอำนาจหลังจาการลุกฮือของประชาชนที่นำโดยนางคอราซอน อะคิโน่ และต้องหนีไปอยู่ที่รัฐฮาวายจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อ 27 ปีก่อน
มีผู้ประเมินว่าครอบครัวมาร์กอสกอบโกยทรัพย์สินจากการคอร์รัปชั่นจนมีความมั่งคั่งระดับหมื่นล้านดอลลาร์
โดยหนึ่งในผู้วิจารณ์ “บองบอง” มาร์กอส คนสำคัญ คือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เบนิกโน่ อะคิโน่ ลูกชายของนางคอราซอน อะคิโน่ นั่นเอง
สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอีกผู้หนึ่ง โรลี่ อัลวาเรส บอกว่าการเป็นลูกอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสไม่ได้เป็นข้อเสียสำหรับเธอ เธอกล่าวว่าเมื่อครั้งที่อดีตประธานาธิบดีมาร์กอสผู้พ่อใช้กฎอัยการศึกปกครองประเทศ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่สวยงามสำหรับเธอ เพราะประชาชนคลายความกังวลเรื่องภัยอาชญากรรม
แต่ บอนิฟาซิโอ ฮิลากัน โฆษกของกลุ่มต่อต้านครอบครัวมาร์กอส Campaign Against the Return of the Marcoses to Malacanang กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ควรที่จะได้ผู้นำที่ดีกว่าคนโกหกและเก็บงำทรัพย์สินที่ขโมยมา รวมทั้งขาดสำนึกในการแยกแยะถูกผิด
อย่างไรก็ตาม “บองบอง” มาร์กอส ยังคงเดินหน้าหาเสียงด้วยการเรียกร้องให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในประเทศ ซึ่งต้องดูต่อไปว่าอนาคตทางการเมืองของทายาทตระกูลมาร์กอสจะสามารถไปได้ไกลถึงตำแหน่งผู้นำประเทศได้หรือไม่
และผลการเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในวันจันทร์นี้ จะมีส่วนกำหนดเส้นทางต่อไปของเขาให้ชัดเจนขึ้นได้
(รายงานโดย Simone Orendain / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)