รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศจับมือนานาประเทศ จัดตั้งหน่วยพิเศษเพื่อทำหน้าที่ปกป้องเรือสินค้าที่ต้องเดินทางผ่านทะเลแดง หลังจากเรือหลายลำตกเป็นเป้าการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธวิถีโค้งของกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน
การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงกำลังส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเครือข่ายการขนส่งสินค้าทั่วโลก หลังจากที่บริษัทขนส่งรายใหญ่หลายแห่งตัดสินใจเลี่ยงเส้นทางทะเลแดงและคลองสุเอซจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทำให้มีโอกาสที่ราคาสินค้าต่าง ๆ อาจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมัน
เมื่อวันจันทร์ กองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลางของกองทัพสหรัฐฯ รายงานการโจมตีเรือสินค้าสองลำนอกชายฝั่งเยเมน สร้างความเสียหายต่อตัวเรือบางส่วนแต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน มีแถลงการณ์หลังพบหารือกับผู้นำบาห์เรนในวันอังคารว่า "นี่คือความท้าทายระหว่างประเทศที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการแก้ไขจัดการ" "ดังนั้น วันนี้จึงขอประกาศการจัดตั้งปฏิบัติการ Prosperity Guardian ภารกิจใหม่ด้านความมั่นคงนานาชาติที่มีความสำคัญยิ่ง"
รัฐมนตรีออสติน ระบุว่า อังกฤษ บาห์เรน แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน และซีเชลล์ส จะเข้าร่วมในปฏิบัติการดังกล่าวของสหรัฐฯ โดยบางประเทศจะทำหน้าที่ลาดตระเวนร่วมกัน ส่วนประเทศอื่นจะช่วยจัดหาการสนับสนุนด้านข่าวกรองในแถบทะเลแดงและอ่าวเอเดน
เจ้าหน้าที่การทหารผู้หนึ่งเปิดเผยว่า มีหลายประเทศที่ตกลงมีส่วนร่วมในปฏิบัติการนี้ด้วยแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อในตอนนี้
Operation Prosperity Guardian จะร่วมประสานกับกองกำลังผสมเฉพาะกิจ 153 ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2022 โดยมีสมาชิก 39 ประเทศ เป้าหมายเพื่อสนับสนุนความปลอดภัยทางทะเลในแถบทะเลแดง ช่องแคบบับ เอล-มันเดบ และอ่าวเอเดน
เวลานี้ เรือรบสองลำของสหรัฐฯ คือ USS Carney และ USS Mason ได้เดินทางไปประจำการบริเวณช่องแคบบับ เอล-มันเดบ เพื่อช่วยสกัดและรับมือการโจมตีโดยกลุ่มฮูตีจากเยเมนแล้ว
ขณะเดียวกัน เมื่อวันจันทร์ สหรัฐฯ ได้มีแถลงการณ์เรียกร้องไปยังคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติให้ใช้มาตรการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮูตีด้วย เพราะถือเป็นการคุกคามเสรีภาพในการเดินเรือ การค้าระหว่างประเทศ และความมั่นคงในน่านน้ำทะเลสากล
สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคง 15 ประเทศได้หารือเรื่องนี้เมื่อวันจันทร์ แต่ยังไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมา
- ที่มา: เอพี