กลุ่มติดอาวุธฮูตีในเยเมน ประกาศการใช้โดรนโจมตีเรือพาณิชย์สองลำในทะเลแดงในวันจันทร์ ซึ่งเป็นกรณีการโจมตีล่าสุดของกลุ่มกบฎที่มีอิหร่านหนุนหลัง สืบเนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่า
โฆษกกลุ่มฮูตี ยาห์ยา ซาเรอา ระบุว่า เรือสินค้าสองลำที่ถูกโจมตีในวันจันทร์ คือ เรือเอ็มเอสซี คลารา (MSC Clara) ติดธงปานามา และเรือสวอน แอตแลนติก (Swan Atlantic) ของนอร์เวย์ ซึ่งการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกเรือของเรือทั้งสองลำไม่ตอบกลับการติดต่อของกลุ่มฮูตี
เจ้าของเรือสวอน แอตแลนติก เผยว่า เรือถูกโจมตีด้วยวัตถุที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร แต่ไม่มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เรือเอ็มเอสซี คลารา ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการโจมตี
ทางการสหรัฐฯ ยืนยันการโจมตีเรือสวอน แอตแลนติก โดยระบุว่ามีวัตถุบินได้หลายลำถูกส่งมาจากพื้นที่ในเยเมนที่กลุ่มฮูตีครอบครองอยู่ พร้องกล่าวว่าจะขยายความร่วมมือกับชาติพันธมิตรเพื่อปกป้องเรือสินค้าในทะเลแดงและส่งสัญญาณไปยังกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน
ทางด้านบริษัทเจ้าของเรือเปิดเผยว่า การโจมตีสร้างความเสียหายต่อถังเก็บน้ำบางส่วนของเรือ และเกิดเพลิงไหม้จุดเล็กซึ่งลูกเรือสามารถช่วยกันดับไฟได้ ก่อนที่เรือจะเดินทางต่อไปโดยไม่มีลูกเรือได้รับอันตราย
กลุ่มฮูตีกล่าวว่า การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงคือส่วนเชื่อมโยงกับการประท้วงปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซ่า โดยการโจมตีจะดำเนินต่อไปจนกว่าอิสราเอลจะยุติปฏิบัติการในกาซ่า พร้อมเตือนเรือต่าง ๆ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณนี้
หวั่นผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าโลก
การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮูตีต่อเรือสินค้าหลายลำในทะเลแดง กำลังสร้างปัญหาต่อการขนส่งสินค้าทางทะเลทั่วโลก หลังจากที่บริษัทขนส่งต่าง ๆ พากันหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ต้องผ่านคลองสุเอซและทะเลแดงซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ
กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าและต้นทุนค่าประกันภัยของเรือสินค้าที่ต้องผ่านช่องทางนี้ เพิ่มสูงขึ้น โดยตลาดประกันภัยในกรุงลอนดอนประกาศขยายพื้นที่ในทะเลแดงที่ถูกจัดว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
บรรษัทคมนาคมขนส่งทางทะเล หยาง หมิง (Yang Ming Marine Transport Corporation) ของไต้หวัน เปิดเผยในวันจันทร์ว่า จะเลี่ยงการเดินทางผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดนทั้งหมดในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า โดยจะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอ้อมผ่านแหลมกู๊ดโฮปทางใต้สุดของทวีปแอฟริกาแทน
ขณะที่ ลาร์ส บาร์สตัด ซีอีโอของกลุ่มบริษัทผู้ขนส่งน้ำมัน ฟรอนท์ไลน์ (Frontline) ของนอร์เวย์ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า จะเริ่มเลี่ยงการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดนเช่นกัน ซึ่งอาจมีผลให้ปริมาณการขนส่งน้ำมันในแต่ละครั้งต้อลดลงเพราะเรือต้องเดินทางไกลขึ้น และอาจมีผลกดดันให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ บริษัทขนส่งรายใหญ่หลายบริษัท รวมทั้งบริษัทเอ็มเอสซี และบริษัทเมอส์ก (Maersk) ก็ประกาศเลี่ยงเส้นทางคลองสุเอซและทะเลแดงแล้วเช่นกัน
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น