ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศเรียกสมาชิกสภาล่างเข้าร่วมประชุมนัดด่วน ระหว่างการหยุดพักสมัยประชุมช่วงฤดูร้อน เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาหน่วยงานไปรษณีย์สหรัฐฯ ขาดงบประมาณทำงานเนื่องจากมาตรการลดต้นทุนของผู้บริหารใหม่
การประชุมนัดพิเศษนี้เกิดขึ้น หลังสถานการณ์ที่การไปรษณีย์สหรัฐฯ หรือ U.S. Postal Service (USPS) มีปัญหาจนทำให้เกิดความกังวลว่า การส่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้จะช้าจนพลาดกำหนดที่กฎหมายอนุญาตได้
รายงานข่าวระบุว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะพิจารณาออกกฎหมายใหม่เพื่อช่วยให้ USPS ไม่ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงการทำหน้าที่ซึ่งเพิ่งเริ่มปรับเปลี่ยนมาเมื่อต้นปีนี้เอง
แนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาล่างสหรัฐฯ กล่าวว่า การไปรษณีย์สหรัฐฯ คือเสาหลักหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยของประเทศ ซึ่งมีบทบัญญัติไว้อยู่ในรัฐธรรมนูญ และมีความสำคัญในการให้บริการอันจำเป็นยิ่ง อาทิ การนำส่งยารักษาโรค เช็คเงินบำนาญจากหน่วยงานประกันสังคม รวมทั้งเช็คเงินต่างๆ เงินคืนภาษี และบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า ไปยังชาวอเมริกันนับล้านคน แม้แต่ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
ขณะเดียวกัน ชัค ชูเมอร์ ผู้นำสมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา เรียกร้องให้ มิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา เชิญสภาชิกสภาสูงกลับมาประชุมที่กรุงวอชิงตันเพื่อจัดการกับ “ความเสียหายวงกว้าง” ที่ ลูอิส ดีจอย ผู้ว่าการไปรษณีย์คนใหม่สร้างขึ้น
วุฒิสมาชิก ชูเมอร์ กล่าวด้วยว่า การร่วมแก้ไขสถานการณ์นี้จะได้ช่วยให้ “ประชาชนได้รับเช็คค่าใช้จ่าย ยา และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ได้ทันท่วงที ทั้งยังทำให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในแบบที่เป็นอิสระและยุติธรรมด้วย”
ทั้งนี้ ส.ส.เพโลซี่ และ ส.ว.ชูเมอร์ ได้เรียกร้องให้ทั้งผู้ว่าการฯ ดีจอย และ โรเบิร์ต ดันแคน ประธาน USPS มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว ต่อคณะกรรมาธิการการกํากับดูแลและปฏิรูประบบราชการสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้าเรียบร้อยแล้ว
ผู้ว่าการฯ ดีจอย นั้นเป็นเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ทำการบริจาคเงินให้กับพรรครีพับลิกัน ซึ่งปธน.ทรัมป์ เลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดูแล USPS เมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุด ยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการดังกล่าวหรือไม่
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่า การให้ประชาชนสามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์ จะทำให้เกิดการโกงการเลือกตั้ง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยอมรับว่า ตนชะลอการอนุมัติงบเร่งด่วนจำนวน 25,000 ล้านดอลลาร์ให้กับ USPS เพื่อทำให้การลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ทำได้ยากขึ้น ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ใหม่ว่า ตนจะอนุมัติงบก้อนนี้ หากพรรคเดโมแครตยอมตกลงเห็นชอบแผนช่วยเหลือโควิด-19 ที่พรรครีพับลิกันเสนอ
ขณะเดียวกัน มาร์ค เมโดวส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำ ทำเนียบขาว ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า ปธน.ทรัมป์ พยายามเข้ามามีอิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้