เวลานี้ หลายประเทศกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก
ที่เนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีมาร์ค รัตต์ กล่าวต่อประชาชนว่า รัฐบาลเริ่มใช้มาตรการใหม่ในวันอาทิตย์ เพื่อควบคุมการระบาด "ระลอกที่ 5" ที่เป็นผลมาจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ โอมิครอน
ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ ร้านค้าที่ไม่จำเป็นต้องปิดบริการยาวจนถึงกลางเดือนมกราคม ขณะที่ครอบครัวต่าง ๆ สามารถเชิญแขกไปเยี่ยมบ้านคราวละแค่สองคน และเพิ่มเป็นสี่คนระหว่างงานฉลองเทศกาลคริสต์มาสวันที่ 24-26 ธันวาคม รวมทั้งวันสิ้นปีและวันปีใหม่ ส่วนโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศต้องระงับการเรียนการสอนจนถึงวันที่ 9 มกราคมเป็นอย่างน้อย
จนถึงขณะนี้ มีประชาชนชาวดัตช์ฉีดวัคซีนแล้ว 85% แต่มีเพียง 9% ที่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์ ซึ่งคณะทำงานของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เพื่อรับมือการระบาดของโควิด-19 กล่าวว่า การล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดจะช่วยให้ประชาชนมีเวลาไปฉีดวัคซีนมากขึ้น และช่วยให้โรงพยาบาลต่าง ๆ เตรียมรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นได้
อีกด้านหนึ่ง ทางการเยอรมนีประกาศให้อังกฤษเป็น "พื้นที่น่ากังวล" สืบเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในอังกฤษ ซึ่งจะมีผลให้ประชาชนที่เดินทางจากอังกฤษไปยังเยอรมนีจะต้องผ่านการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ไม่จำเป็นว่าจะฉีดวัคซีนโควิดแล้วหรือไม่ หรือเคยติดเชื้อโคโรนาไวรัสมาแล้วหรือยัง
ขณะนี้ อังกฤษกำลังเผชิญการระบาดของไวรัสโอมิครอนระลอกใหม่ ทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องประกาศนำมาตรการบังคับสวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะกลับมาใช้ รวมทั้งต้องแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนเวลาเข้าสถานที่กลางคืนหรือสนามกีฬาต่าง ๆ
ปัจจุบัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้นใกล้เคียงระดับต้นปีนี้ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ซึ่งรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ซาจีด จาวิด กล่าวโทษบรรดาผู้ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนว่า "กำลังแย่งเตียงผู้ป่วยของคนอื่น"
และที่ฝรั่งเศส รัฐบาลประกาศเตรียมฉีดวัคซีนให้ประชากรอายุ 5-11 ปี เริ่มวันพุธนี้ รวมทั้งกำลังพิจารณามาตรการบังคับให้ประชาชนต้องแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนเวลาอยู่ในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ