อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา และอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา ขึ้นกล่าวปราศรัยในคืนวันที่สองของงานประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต เมื่อคืนวันอังคาร ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยล์ เรียกร้องให้ประชาชนอเมริกันสนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนต่อไป
มิเชล โอบามา ขึ้นกล่าวว่า "ความหวังกำลังจะกลับมา" และได้พูดถึงคู่แข่งของแฮร์ริส คืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า "มุมมองที่จำกัดและคับแคบของเขาที่มีต่อโลกนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าถูกคุกคามจากบุคคลสองคนที่ทำงานอย่างหนัก มีการศึกษาสูง ประสบความสำเร็จ และยังเป็นคนผิวดำทั้งคู่"
ทางด้านอดีตปธน.โอบามา ขึ้นกล่าวเช่นกันโดยเรียกทรัมป์ว่า "มหาเศรษฐีวัย 78 ปีผู้ไม่เคยหยุดคร่ำครวญถึงปัญหาของตัวเอง" และว่า "เป็นคำบ่นและความโศกเศร้าอย่างต่อเนื่องซึ่งย่ำแย่ลงอีกในตอนนี้เพราะความกลัวที่จะพ่ายแพ้ต่อคามาลา"
สว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ และ สว.เบอร์นี แซนเดอร์ส จากรัฐเวอร์มอนต์ ต่างขึ้นกล่าวในค่ำคืนที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนแฮร์ริสในการเลือกตั้งครั้งนี้
การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในคืนที่สองไม่ใช่แต่จะมีความจริงจังทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังมีบรรยากาศของงานปาร์ตี้เมื่อมีดีเจมาเปิดเพลงให้บรรดาผู้ร่วมงานได้สนุกสนานกันไปด้วย
ทิม วอลซ์ - บิล คลินตัน จับมือขึ้นเวทีประชุมใหญ่คืนที่สาม
ในงานประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตคืนที่สาม ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา ทิม วอลซ์ ผู้ลงสมัครร่วมกับแฮร์ริสในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน จะขึ้นกล่าวต่อบรรดาผู้ร่วมงาน
สำหรับธีมของงานวันพุธนี้ คือ "การต่อสู้เพื่อเสรีภาพของเรา" ซึ่งสอดคล้องกับคำขวัญที่แฮร์ริสใช้ในการหาเสียง
ทิม วอลซ์ มีกำหนดจะต้องตอบรับการถูกเสนอชื่อลงสมัครในครั้งนี้บนเวทีการประชุม และถือเป็นโอกาสที่เขาจะได้แนะนำตัวเองให้คนอเมริกันรู้จัก เนื่องจากที่ผ่านมา ชื่อของผู้ว่าการรัฐมินเนโซตาผู้นี้ค่อนข้างจะไม่ค่อยผ่านหูประชาชนอเมริกันในรัฐอื่น ๆ มากนัก จนกระทั่งแฮร์ริสตัดสินใจเลือกเขาให้มาลงสมัครคู่กันกับเธอ
ส่วนอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ซึ่งยังคงได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่สมาชิกพรรคเดโมแครต จะขึ้นกล่าวบนเวทีประชุมใหญ่ที่เขาเคยสร้างความประทับใจมาแล้วเมื่อสมัยเป็นผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอเมื่อปี 1988 ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีในอีก 4 ปีต่อมา
ภารกิจสำคัญของทั้งสองคน คือการสร้างแรงสนับสนุนให้แก่รองปธน.แฮร์ริส ซึ่งจะกล่าวปราศรัยในคืนวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของการประชุม
สองผู้สมัครยังเน้นโจมตีกันและกัน
อดีตปธน.ทรัมป์ ซึ่งเดินสายหาเสียงที่รัฐมิชิแกนเมื่อวันอังคาร กล่าวโจมตีรองปธน.แฮร์ริส ว่าเป็น "ผู้นำแก๊ง" ที่ทำร้ายบรรดาผู้รักษากฏหมายทั่วประเทศด้วยแนวคิดสังคมนิยม
และว่า "คามาลา แฮร์ริส จะนำมาซึ่งอาชญากรรม ความวุ่นวาย การทำลายล้างและความตาย"
ด้านแฮร์ริส ซึ่งหาเสียงที่รัฐเพนซิลเนียในวันอังคาร กล่าววิจารณ์คำตัดสินของศาลสูงสหรัฐฯ ว่าด้วยการให้สิทธิคุ้มครองบางส่วนต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์จากการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายในคดีที่เขาไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 โดยแฮร์ริสกล่าวว่า ทรัมป์คือภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งคุกคามค่านิยมและเสรีภาพของคนอเมริกัน
"ใครก็ตามที่มีประวัติ (การกระทำผิด) ไม่ควรได้รับโอกาสอีกครั้งให้ยืนหลังตราประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ" แฮร์ริสกล่าว
- ที่มา: เอพี