ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวคำปราศัยประจำปีต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาหรือ State of the Union คืนวันอังคาร ระบุถึงการเพิ่มความเข้มแข็งในการรักษาความมั่นคงของสหรัฐฯ และทั่วโลก พร้อมไปกับการขยายความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปยังคนอเมริกันชนชั้นกลางและคนยากจน
ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวเปิดการปราศัยประจำปี State of the Union ว่า 15 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก้าวสู่สหัสวรรษใหม่ อเมริกาเผชิญกับปัญหามากมายทั้งในและนอกประเทศ ตั้งแต่ปัญหาการก่อการร้ายไปถึงปัญหาเศรษฐกิจ ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคนอเมริกันจำนวนมาก ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แต่ค่ำคืนนี้ เงาแห่งวิกฤติต่างๆได้ผ่านพ้นไป และสถานะของสหรัฐฯกำลังเข้มแข็ง
ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวว่า งบประมาณที่ตนจะเสนอต่อรัฐสภาในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า จะแสดงให้เห็นถึงแนวคิดสามารถปฏิบัติได้จริง ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
เริ่มต้นด้วยเรื่องเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีโอบาม่าเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงเศรษฐกิจ โดยบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเติบโตอีกครั้ง ยอดขาดดุลการค้าลดลง ภาคอุตสาหกรรมและพลังงานกำลังฟื้นตัว ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเหลือเพียง 5.6% ซึ่งต่ำสุดตั้งแต่ปี ค.ศ 2008
แต่ในขณะที่รายได้ของคนอเมริกันส่วนใหญ่กำลังเพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีคนอเมริกันจำนวนมากที่ยังได้รับค่าจ้างในระดับต่ำ โดยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบาม่าพยายามที่จะผลักดันนโยบาย ที่เชื่อว่าจะกระจายประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับคนอเมริกันรายได้ต่ำมากขึ้น รวมถึงการลดภาษีให้กับครอบครัวอเมริกันรายได้น้อยด้วย
ประธานาธิบดีโอบาม่ายังได้เรียกร้องอีกครั้งให้มีการขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกต่อต้านโดยพรรครีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
ประธานาธิบดีโอบาม่าระบุว่า ตนต้องการเพิ่มการลงทุนในด้านการศึกษาแก่เยาวชน ได้แก่นโยบายเรียนฟรีสำหรับวิทยาลัยชุมชนหรือ community college ต่างๆ นอกจากนี้ตนจะทำงานร่วมกับรัฐสภาเพื่อบรรเทาภาระเรื่องเงินกู้เพื่อการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
ประธานาธิบดีโอบาม่ายังได้ขอให้มีการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสาธาณูปโภคทั่วประเทศ เช่น ถนน ท่าเรือ สะพาน รางรถไฟ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
นโยบายขึ้นภาษีคนอเมริกันฐานะร่ำรวย
ประธานาธิบดีโอบาม่าเรียกร้องอีกครั้งให้มีมาตรการเพิ่มอัตราภาษีเงินได้สำหรับคนร่ำรวยและบริษัทธุรกิจการเงิน รวมทั้งรายได้จากหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นการช่วยให้ชนชั้นกลางมีสถานภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้น
ข้อเสนอเรื่องอัตราภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ มุ่งจะนำเงินภาษีเก็บจากคนร่ำรวยและบริษัทธุรกิจการเงิน ซึ่งคาดว่ามูลค่าราว 320 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ไปใช้ในมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยคนชั้นกลางในประเทศ รวมทั้งสนับสนุนนโยบายเรียนฟรีในวิทยาลัยชุมชน
ประธานาธิบดีโอบาม่ายังขอให้มีการปรับปรุงกฏหมายด้านภาษีให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ลดช่องโหว่ในการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ซึ่งเป้นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมด้านภาษีในสหรัฐฯ
เพิ่มการรักษาความปลอดภัยระดับชาติ
ประธานาธิบดีโอบาม่าระบุว่า หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของตนในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพ คือการป้องกันประเทศและรับรองความปลอดภัยของประชาชน
นั่นคือเหตุผลที่สหรัฐฯต้องหยุดยั้งการขยายตัวของขบวนการรัฐอสลามในอิรักและซีเรีย แต่แทนที่สหรัฐฯจะเข้าร่วมในสงครามภาคพื้นดินในตะวันออกกลาง สหรัฐฯตัดสินใจรับบทบาทเป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตร เพื่อโจมตีทำลายกลุ่มก่อการร้ายนั้น โดยมุ่งเน้นการโจมตีทางอากาศ และให้ความสนับสนุนต่อกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในซีเรีย เพื่อต่อสู้กับขบวนการรัฐอิสลาม
ประธานาธิบดีโอบาม่ายังได้กล่าวถึงความวุ่นวายในยูเครน โดยเน้นย้ำว่าอเมริกายึดมั่นตามหลักการที่ว่า ประเทศใหญ่กว่าไม่ควรรังแกประเทศที่เล็กกว่า ด้วยการต่อต้านการกระทำของรัสเซียอย่างแข็งขัน และสนับสนุนกระบวนการทางประชาธิปไตยในยูเครนไปพร้อมกัน รวมทั้งการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียเลิกแทรกแซงยูเครน
ประธานาธิบดีโอบาม่าได้หยิบยกประเด็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคิวบา โดยบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องลองอะไรใหม่ๆ ซึ่งการฟื้นความสัมพันธ์กับคิวบาจะช่วยยุติความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ยุติรอยร้าวที่กินเวลานานถึง 50 ปี และยังเป็นการสนับสุนให้เกิดการปฏิรูปการเมืองในคิวบา .
ประเด็นความมั่นคงในโลกไซเบอร์
ประธานาธิบดีโอบาม่ากระตุ้นให้เกิดการเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต เพื่อขับไล่ผู้รุกราน เช่นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เจาะล้วงข้อมูลของเครือข่ายคอมพิวเตอร์บริษัท Sony Pictures และการเจาะล้วงข้อมูลในทวิตเตอร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยกลุ่มรัฐอิสลาม
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้เพิ่มมาตรการต่อต้านภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ เช่นเดียวกับการต่อต้านการก่อการร้าย และได้ขอให้รัฐสภาสหรัฐผ่านร่างกฏหมายที่มีความทันสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของภัยคกคามในโลกไซเบอร์ ตลอดจนการต่อสู้กับการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
เข้าร่วมการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวว่าตนจะไม่ยอมให้รัฐสภาสหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้กับปัญหาภาวะโลกร้อนที่กำลังเดินหน้า เพราะถือเป็นภัยคุกคามต่อคนรุ่นหลัง
ผู้นำสหรัฐฯเน้นย้ำรายงานของเพนตาก้อนที่ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกำลังทำลายความมั่นคงของประเทศ และตนขอรับรองว่าสหรัฐฯจะเป็นผู้นไในการต่อสู้กับปัญหานี้ต่อไป
เน้นย้ำคุณค่าที่แท้จริงของคนอเมริกัน
ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวว่า ในฐานะคนอเมริกัน เราต้องยกย่องและสนับสนุนเสรีภาพของพลเมือง และต้องยึดมั่นในคุณค่านี้หากต้องการความร่วมมือจากนานาประเทศ ในการต่อสู้กับเครือข่ายก่อการร้ายทั่วโลก
ประธานาธิบดีโอบาม่ายกย่องความเป็นอเมริกันที่หลอมรวมเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายอยู่ใน melting pot และเป็นประเทศที่ให้โอกาสแก่ทุกคนรวมทั้งตนเอง
ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ระบุถึงการเสียชีวิตของวัยรุ่นผิวดำจากน้ำมือของตำรวจว่า ชีวิตของเด็กทุกคนในทุกชุมชนล้วนมีความสำคัญ และลูกหลานรุ่นต่อๆไปจะสามารถรับรู้ได้ว่า คนอเมริกันมองความแตกต่างเป็นของขวัญ และต่างให้ความสำคัญต่อศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมของพลเมืองทุกคน
รายงานจากห้องข่าว VOA / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล