ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า สิ้นสุดการเยือนเยอรมนีเป็นเวลาสองวัน ด้วยการกล่าวปราศรัยตอกย้ำความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งระหว่างสองประเทศ ทั้งในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การจัดทำข้อตกลงการค้า T-TIP ตลอดจนความเป็นพันธมิตรเพื่อร่วมต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในตะวันออกกลาง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบาม่า กล่าวที่งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่เมืองฮันโนเวอร์ของเยอรมนีในวันจันทร์ โดยระบุว่าสหรัฐฯ กำลังจัดส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษเข้าไปยังซีเรียอีก 250 นาย เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม
ปธน.โอบาม่ากล่าวว่ากำลังเสริมที่ส่งเข้าไปในซีเรียนี้ จะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการรบภาคพื้นดิน แต่เป็นส่วนสำคัญในการฝึกฝนและช่วยเหลือกองกำลังในส่วนท้องถิ่น
ปธน.โอบาม่า ยังได้เรียกร้องให้พันธมิตรของสหรัฐฯ ในยุโรป เพิ่มความพยายามในการปกป้องความมั่นคงและป้องกันการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ซึ่งทำทุกวิถีทางเพื่อสังหารพลเมืองของยุโรปและอเมริกา อย่างไรก็ตาม ลำพังประเทศใดประเทศหนึ่งไม่สามารถจัดการกับปัญหาผู้ก่อการร้ายได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย
ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่าความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปเป็นสิ่งสำคัญในการต่อต้านแนวคิดการก่อการร้าย
ภายหลังการกล่าวปราศรัย ปธน.โอบาม่าได้พบปะกับผู้นำเยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี และได้หารือกันในหลายประเด็น
รวมถึงวาระการประชุมขององค์การนาโต้ในเดือน ก.ค. ที่กรุงวอร์ซอ ที่จะมีการหารือกันถึงความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ ยุโรป และองค์การนาโต้ ในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม แก้ปัญหาวิกฤติการณ์ผู้อพยพในยุโรป และการแทรกแซงของรัสเซียในยูเครน
ในด้านการค้าและการลงทุน ปธน.โอบาม่า และ นายก รมต.เยอรมนี อังเกล่า เมอร์เคิ่ล แสดงความสนับสนุนข้อตกลงการค้า Trans-Atlantic Trade and Investment Partnership หรือ T-TIP โดยระบุว่าจะช่วยสร้างงานและเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างสหรัฐฯกับยุโรปได้มาก
ปธน.โอบาม่า ชี้ว่าเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันถูกผลักดันโดยการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ แล้วเปลี่ยนแนวคิดนั้นให้เป็นสินค้า กลายเป็นอุตสาหกรรมแบบใหม่ที่ช่วยสร้างงานที่ดีได้
ผู้สนับสนุนข้อตกลง T-TIP เชื่อว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลก และช่วยให้บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น แต่ผู้ต่อต้านแย้งว่า ข้อตกลง T-TIP จะทำให้บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่มีอิทธิพลมากขึ้น ในขณะที่ผู้เสียประโยชน์คือลูกค้าและคนทำงานทั่วไป
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คาดการณ์ว่าข้อตกลงการค้าและการลงทุน T-TIP จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป ได้ราว 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยทั้งสองฝ่ายได้เริ่มเจรจาข้อตกลงที่ว่านี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013
บรรดาผู้สนับสนุน T-TIP ต่างเชื่อว่า หลังจากที่สหรัฐฯ และประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก สามารถบรรลุการเจรจาเรื่องข้อตกลงการค้าฉบับใหญ่อีกฉบับหนึ่งคือ Trans-Pacific Partnership หรือ TPP ไปได้เมื่อต้นปีนี้ ทำให้มีแนวโน้มที่ดีต่อการเจรจาข้อตกลง T-TIP ในปัจจุบันเช่นกัน
(ผู้สื่อข่าว Mary Alice Salinas รายงานจากเมือง Hannover เยอรมนี / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียงเสนอ)