เสียงวิจารณ์จากพรรครีพับลิกันต่อการเยือนคิวบาของประธานาธิบดีโอบาม่า
มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันอาทิตย์หลังจากเครื่องบิน Air Force One ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงคิวบาว่า “ว้าว! ประธานาธิบดีโอบาม่าเพิ่งเดินทางถึงคิวบา แต่ ราอุล แคสโตร ไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับ แม้เขาจะเคยให้การต้อนรับอย่างดีกับพระสันตะปาปาและผู้นำคนอื่นๆ มาแล้ว นั่นแสดงถึงความไม่เคารพกันชัดๆ”
ก่อนหน้านี้ ทรัมพ์เคยบอกว่าตนไม่ได้รู้สึกต่อต้านอะไร เมื่อสหรัฐฯ เริ่มรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคิวบาขึ้นใหม่ ซึ่งต่างกับผู้สมัครคนอื่นๆ ของพรรครีพับลิกันที่มองว่าการฟื้นความสัมพันธ์กับคิวบา แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของรัฐบาล ปธน.โอบาม่า
สว.เท็ด ครูซ หนึ่งในผู้สมัครซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบา กล่าวกับนิตยสาร Politico ว่าเสรีภาพไม่สามารถไปถึงคิวบาด้วยการสนับสนุนระบอบการปกครองเผด็จการของนายราอุล แคสโตร
ด้านผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันอีกคนหนึ่งซึ่งถอนตัวออกไปแล้ว แต่มีเชื้อสายคิวบาเช่นกัน คือ สว.มาร์โค รูบิโอ ได้แสดงความเห็นต่อต้านนโยบายฟื้นความสัมพันธ์ สหรัฐฯ – คิวบา ว่าการที่ ปธน.โอบาม่า เยือนคิวบาครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในการเดินทางเยือนต่างประเทศของ ปธน.สหรัฐฯ ที่น่าอดสูที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
ขณะที่ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ จอห์น เคซิค ซึ่งยังอยู่ในเส้นทางชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันเช่นกัน กล่าวว่าตนต้องการเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-คิวบา มีความสมดุลมากขึ้นเพราะปัจจุบันดูเหมือนสหรัฐฯ จะเป็นแต่เพียงฝ่ายให้ และคิวบาเป็นฝ่ายรับ
อย่างไรก็ตาม คุณจอห์น มาร์แซค ผอ.โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแถบละตินอเมริกาของ Atlantic Council ชี้ว่าการรักษาสมดุลของความสัมพันธ์ไม่ใช่เป้าหมายหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดนี้ แต่เป็นการสนับสนุนให้เกิดชนชั้นทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ในคิวบา ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อระบอบการปกครองของคิวบา
สื่อทางการจีนเตือนผู้นำคิวบาให้ระวังนัยแฝงของสหรัฐฯ
อีกด้านหนึ่ง สื่อของทางการจีนแสดงความเห็นต่อการเยือนคิวบาของ ปธน.โอบาม่า โดยเตือนให้รัฐบาลคิวบาระวังนัยที่แฝงมากับความพยายามฟื้นความสัมพันธ์ของสองประเทศในครั้งนี้
สำนักข่าวซินหว่าระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ พยายามปลูกฝังแนวคิดแห่งการแทรกแซงประเทศอื่นให้กับประเทศในแถบละตินอเมริกา ซึ่งรวมถึงการเยือนคิวบาครั้งนี้ด้วย ซินหว่ายังเตือนให้สหรัฐฯ ยุติการแพร่ขยายแนวคิดดังกล่าว และให้ปฏิบัติต่อทุกประเทศอย่างเท่าเทียม
ขณะเดียวกัน นสพ.ภาษาอังกฤษของทางการจีน Global Times เตือนบรรดาผู้นำคิวบาให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะอเมริกาอาจต้องการปลุกปั่นให้เกิดการลุกฮือปฏิวัติ เหมือนกับเหตุการณ์ Arab Spring ในตะวันออกกลาง
ที่ผ่านมา จีนและคิวบามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะสหายของระบอบคอมมิวนิสต์ โดยในอดีต ปธน.จีนเดินทางเยือนคิวบาหลายครั้ง รวมทั้งการเยือนของ ปธน. สี จิ้นผิง เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งได้มีการลงนามในข้อตกลงการค้า 29 ฉบับ ตั้งแต่การเงิน การเกษตร พลังงาน ไปจนถึงกอล์ฟ
ปัจจุบัน จีนคือคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของคิวบารองจากเวเนซุเอล่า และยังเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ของคิวบา ดังนั้นจีนจึงเกิดความกังวลว่า การที่สหรัฐฯ กลับมาฟื้นความสัมพันธ์กับคิวบาครั้งนี้ อาจกระทบต่ออิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนที่มีต่อคิวบาได้เช่นกัน
(ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียงรายงานจากห้องข่าววีโอเอ)