มีรายงานที่กล่าวว่า เกาหลีเหนือเปิดร้านอาหารบริการผู้คนทั่วโลกมากกว่า 130 ร้าน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ลูกค้าที่อุดหนุนร้านอาหารที่ว่านี้ มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นชาวเกาหลีใต้
ชาวเกาหลีใต้บางส่วนและสื่อตะวันตกมองว่า ร้านอาหารของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ นอกจากจะเป็นเครื่องหาเงินตราต่างประเทศให้กับรัฐบาลแล้ว ยังอาจเป็นแหล่งฟอกเงินและการดำเนินการอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย
ข้อมูลที่จะรายงานต่อไปนี้ มาจากอดีตพนักงานร้านอาหารของเกาหลีเหนือคนหนึ่งที่ขอสงวนชื่อด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย และจะขอเรียกชื่อเป็นอักษรย่อว่า “J”
“J” บอกกับผู้สื่อข่าวของ Voice of America ภาคภาษาเกาหลีว่า กลไกสำคัญอันหนึ่งของร้านอาหารเหล่านี้ คือ บริกรหญิง บริกรหญิงเหล่านี้ทำงานนานกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน โดยได้รับค่าจ้างแรงงานระหว่าง 1015 ดอลลาร์ (ประมาณ 350-525 บาท) ต่อเดือน
บริกรหญิงเหล่านี้จะต้องทำงานนาน 4 ปี และเมื่อครบกำหนดเดินทางกลับบ้าน จะได้รับเงินสด 2,500 ดอลลาร์ (ราวๆ 87,500 บาท) และเครื่องใช้ในบ้าน เช่น โทรทัศน์ หรือเครื่องซักผ้า เป็นต้น
หน้าที่ของบริกรหญิงเหล่านี้ นอกจากการเสิร์ฟอาหารแล้ว ยังต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของร้าน
ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว มีลูกค้าชาวเกาหลีใต้อุดหนุนร้านอาหารของเกาหลีเหนือในต่างประเทศ ระหว่าง 60-80% ในจำนวนลูกค้าทั้งหมด
ส่วนความสนใจพิเศษนั้น หมายถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และบริกรหญิงเหล่านี้จะรายงานข้อมูลที่ได้มาให้กับหัวหน้างานของตน ซึ่งจะรายงานต่อไปให้กับกระทรวงความมั่นคงของรัฐ เจ้าสังกัดของบรรดาหัวหน้างานเหล่านี้ต่อไปอีกทอดหนึ่ง
หัวหน้างานแต่ละคนรับผิดชอบควบคุมบริกรหญิงระหว่าง 10-20 คน
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการรวมประเทศ (Unification Ministry) ของเกาหลีใต้ บอกว่ามีพนักงานร้านอาหารเกาหลีเหนือ 13 คนขอลี้ภัยในเกาหลีใต้
“J” บอกกับผู้สื่อข่าวภาคภาษาเกาหลีของ Voice of America ว่า คนเหล่านั้นมีโอกาสได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเกาหลีใต้ โดยผ่านทางข่าวโทรทัศน์ ละครและภาพยนตร์ รวมทั้งทางอินเทอร์เน็ต และมีความเข้าใจการโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือด้วย