ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐฯ จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่บ้านในนครฮุสตัน รัฐเท็กซัส สิริอายุรวม 94 ปี ซึ่งจะมีการเปิดให้สาธารณชนเข้าเคารพศพ ณ โดมโรทันดา อาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพุธนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน โดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งพิเศษ กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมในปีนี้ เป็นวันหยุดราชการ รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันพุธด้วยเช่นกัน เพื่อรำลึกถึงการจากไปของประธานาธิบดีบุชผู้พ่อ
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ National Capital Region ระบุว่า State Funeral หรือ พิธีศพแบบรัฐพิธี ในอเมริกา จะใช้เวลาราว 7-10 วัน โดยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ พิธีศพที่ผู้วายชนม์อาศัยอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต พิธีศพแบบรัฐพิธีในกรุงวอชิงตัน และพิธีศพที่จัดขึ้นในรัฐที่ผู้วายชนม์ต้องการ ในกรณีนี้คือที่รัฐเท็กซัส
คำในข่าว สัปดาห์นี้ ขอหยิบยกการแสดงความเสียใจในรูปแบบต่างๆ มาฝากกัน ..
เริ่มจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกแถลงการณ์ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ ระบุว่า “Melania and I join with grieving Nation to mourn the loss of former president George H.W. Bush, who passed away last night ... Our hearts ache with his loss, and we, with the American people, send our prayers to the entire Bush family, as we honor the life and legacy of 41.”
หมายถึง เมลาเนียและผมขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคนทั้งประเทศ ในการแสดงความเสียใจต่อการจากไปของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู บุช ที่เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา … หัวใจของพวกเขาเจ็บปวดจากการสูญเสียอดีตผู้นำท่านนี้ และพวกเราชาวอเมริกันทุกคน ขอร่วมสวดมนต์ภาวนาให้กับครอบครัวของบุช และเชิดชูเกียรติของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 41 นี้ด้วยกัน
ต่อกันที่ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ บารัค โอบามา ทวีตข้อความระบุว่า "While our hearts are heavy today, they are also filled with gratitude. Our thoughts are with the entire Bush Family tonight – and all who were inspired by George and Barbara’s example."
หมายถึง ระหว่างที่หัวใจของพวกเราต่างโศกเศร้าในวันนี้ เราต่างก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง และขอส่งความห่วงใยไปถึงครอบครัวบุชทั้งหมดในค่ำคืนนี้ และเราทุกคนต่างได้รับแรงบันดาลใจจากจอร์ช และบาร์บารา บุช ผู้เป็นแบบอย่าง
ฝั่งครอบครัวคลินตัน ได้ออกแถลงการณ์จากมูลนิธิ Clinton Foundation ระบุว่า "Hillary and I mourn the passing of President George H.W. Bush, and give thanks for his great long life of service, love, and friendship"
หมายถึง ฮิลลารีและผมของแสดงความเสียใจต่อการจากไปของจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช และขอขอบคุณสำหรับการรับใช้ชาติ ความรัก และมิตรภาพอันยาวนาน
และอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ระบุว่า "Rosalynn and I are deeply saddened by the death of former President George H.W. Bush … We again extend our heartfelt condolences to the Bush family."
หมายถึง โรซาลินน์และผมขอแสดงความเสียใจต่อการถึงแก่อสัญกรรมของจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวบุช
สิ่งที่น่าสังเกต และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ก็คือ การแสดงความเสียใจต่อการจากไปของบุคคล ในภาษาอังกฤษ จะเห็นรูปประโยค 3 ลักษณะ ทั้งการแสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย การแสดงความรู้สึกเจ็บปวด สูญเสีย ขอบคุณ หรือยกย่องคุณงามความดีของผู้ที่จากไป รวมทั้งการส่งความปรารถนาดีต่อครอบครัวผู้วายชนม์
สำหรับการแสดงความเสียใจต่อการจากไป จะใช้ได้ว่า I mourn the passing of (ผู้วายชนม์) หรือ I mourn the loss of (ผู้วายชนม์) หรือ I’m deeply saddened by the death of (ผู้วายชนม์)
ส่วนที่ใช้สำหรับการแสดงความรู้สึกส่วนตัวต่อผู้จากไป ในบริบทนี้ อาจใช้ว่า my heart is heavy for (his/her) loss หรือ my heart ache with (his/her) loss ซึ่งต่างหมายถึง หัวใจของฉันเจ็บปวดจากการสูญเสีย (เขา/เธอ) ไป หรืออาจจะใช้พื้นที่ดังกล่าวในการขอบคุณหรือยกย่องคุณงามความดีของผู้เสียชีวิต เช่น thank you/thanks for (คุณงามความดีต่างๆของผู้ที่จากไป)
และส่วนสุดท้าย เราอาจแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ โดยอาจบอกว่า send our prayers to the family ซึ่งหมายถึง ขอร่วมสวดมนต์ภาวนาให้กับครอบครัว หรือ Our thoughts are with (ผู้วายชนม์)’s family หมายถึง ขอส่งความคิดถึงไปยังครอบครัวของผู้วายชนม์ หรือให้เป็นทางการก็อาจใช้ว่า extend heartfelt condolences to the family ซึ่งหมายถึง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว ก็ได้
แต่ในบริบทง่ายๆ ถ้ามีเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จักที่มีคนใกล้ชิดเสียชีวิตไป ก็อาจใช้การแสดงความเสียใจได้ว่า I’m so sorry for your loss.