ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผู้ประท้วงนิวซีแลนด์ชุมนุมหน้ารัฐสภา-ต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีน


New Zealand Prime Minister Jacinda Ardern removes her mask before she outlines the Government's plans, Feb. 3, 2022, that will dismantle its quarantine system and reopen its borders the world.
New Zealand Prime Minister Jacinda Ardern removes her mask before she outlines the Government's plans, Feb. 3, 2022, that will dismantle its quarantine system and reopen its borders the world.

ประชาชนหลายร้อยคนเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงมาตรการบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 และการควบคุมต่าง ของรัฐบาลนิวซีแลนด์ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวแบบเดียวกันนี้ในแคนาดา ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

ผู้ชุมนุมประท้วงใช้รถบรรทุกและรถบ้านมาทำการปิดถนนรอบๆ รัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน โดยผู้ประท้วงที่เรียกตนเองว่า ขบวนเสรีภาพ (convoy of freedom) เดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายโควิดของรัฐบาล ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ฉลองครบรอบ 1 ปีรัฐบาลชุดปัจจุบัน

รายงานข่าวระบุว่า ผู้เข้าชุมนุมส่วนใหญ่นั้นไม่สวมใส่หน้ากาก และหลายคนถือป้ายที่เขียนคำว่า “เสรีภาพ” พร้อมประกาศจะตั้งแคมป์ปักหลักอยู่นอกรัฐสภาจนกว่ารัฐบาลจะยอมประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดต่างๆ ซึ่งหมายความว่า การประท้วงนั้นน่าจะยืดยาวออกไปอีกหลายวัน

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น ที่ยังไม่ได้ออกมาพบกับผู้ชุมนุม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ประท้วงกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชนในประเทศ ซึ่งคนเหล่านั้นได้ทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้คนรอบๆ ตัวอยู่รอดปลอดภัยดีแล้ว

และในสุนทรพจน์ที่นำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาในเดียวกัน ผู้นำนิวซีแลนด์กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะไม่จบลงเพียงแค่ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และนิวซีแลนด์จะต้องเตรียมตัวรับมือกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์อื่นๆ ต่อไปในปีนี้ด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นบังคับใช้กฎเหล็กเพื่อควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสมาตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำ

ข้อมูลระบุว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดมา นิวซีแลนด์ ซึ่งมีจำนวนประชากรราว 5 ล้านคน รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมที่ประมาณ 18,000 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมที่ 53 คน

อย่างไรก็ตาม มาตราควบคุมอันเข้มข้นของรัฐบาลก็ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยไม่พอใจ เพราะต้องแยกตัวออกจากสังคมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งรวมถึงชาวนิวซีแลนด์ที่ไปทำงานที่ต่างประเทศและไม่สามารถกลับมาเยี่ยมครอบครัวได้เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว เนื่องจากมาตรการปิดพรมแดน ขณะที่ ภาคธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก

และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศว่า การเปิดพรมแดนอีกครั้งจะเกิดขึ้นเป็นขั้นๆ และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้

  • ที่มา: รอยเตอร์
XS
SM
MD
LG