นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศคำสั่งห้ามซื้อขายอาวุธปืนไรเฟิลอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติทุกประเภท หลังเกิดเหตุยิงกราดที่มัสยิดสองแห่งในเมืองไคร์ทเชิร์ช เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
มาตรการควบคุมอาวุธปืนนี้ยังรวมถึงตลับกระสุนแบบที่สามารถใส่กระสุนได้หลายชุด รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยแปลงปืนไรเฟิลธรรมดาให้เป็นปืนกลอัตโนมัติได้ด้วย
นายกฯ อาร์เดิร์น ยังได้ประกาศโครงการรับซื้อคืนอาวุธปืน เพื่อที่เจ้าของปืนจะสามารถนำปืนของพวกเขาไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อแลกเป็นเงินกลับมาได้ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 140 ล้านดอลลาร์ สำหรับการซื้อคืนปืนเหล่านี้
คาดว่ารัฐสภานิวซีแลนด์จะรับรองร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืนฉบับใหม่นี้ในช่วงกลางเดือนเมษายน
ปัจจุบัน นิวซีแลนด์ซึ่งมีประชากรราว 5 ล้านคน มีผู้ครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกกฎหมายราว 250,000 คน และคาดว่ามีอาวุธปืนในประเทศราว 1 ล้าน 5 แสนกระบอก
หนึ่งในบริษัทขายปืนรายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ Hunting & Fishing New Zealand กล่าวยอมรับมาตรการล่าสุดของรัฐบาลอย่างยินดี และจะหยุดขายปืนไรเฟิลอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติดังกล่าวทันที ทั้งในร้านค้าและทางเว็บไซต์
สำหรับนายเบรนตัน แฮร์ริสัน ทาร์เรนต์ ชายออสเตรเลียวัย 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุสังหารหมู่มัสยิดสองแห่ง ถูกสั่งฟ้องแล้วในข้อหาฆาตกรรม โดยเขามีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 15 เมษายน
ขณะเดียวกัน พิธีฝังศพผู้เสียชีวิตกว่า 20 คนจากทั้งหมด 50 คนในเหตุการณ์นี้ เริ่มมีขึ้นในวันพฤหัสบดี