ผู้นำทางการเมืองและศาสนาทั่วโลก กล่าวประณามเหตุการณ์สังหารหมู่ที่สุหร่าสองแห่งในนิวซีแลนด์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 คน พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ในขณะเดียวกัน ผู้นำชาวมุสลิมต่างตำหนินักการเมืองและสื่อมวลชนฝ่ายขวา ที่ร่วมแพร่กระจายความเกลียดชังทางเชื้อชาติและศาสนาอิสลามไปทั่วโลก
นายกรัฐมนตรีปากีสถาน อิมราน ข่าน โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ประณามการโจมตีที่มีสาเหตุมาจากความกลัวชาวมุสลิมหลังเหตุการณ์ 9/11
ด้านนายกฯ ตุรกี เมฟลุต คาวูโซกลู กล่าวทางทวิตเตอร์ว่า ไม่ใช่แค่คนร้ายเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนักการเมืองและสื่อมวลชนที่เผยแพร่แนวคิดเกลียดชังชาวมุสลิมก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน
ส่วนที่กรุงดักคา บังกลาเทศ ประชาชนหลายร้อยคนเดินขบวนประท้วงเหตุการณ์ในนิวซีแลนด์ ด้วยการตะโกนว่า "อัลลาฮู อักบาร์" หรือ "พระเจ้าคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด"
พระราชินีเอลิซาเบ็ธที่สองของอังกฤษ ผู้ทรงมีสถานะเป็นประมุขแห่งรัฐของนิวซีแลนด์ มีพระราชสาส์นแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์โจมตีที่เมืองไครท์เชิร์ช
ขณะที่นายซาดี้ค ข่าน นายกเทศมนตรีมุสลิมคนแรกของกรุงลอนดอน กล่าวว่า ชาวลอนดอนขอยืนเคียงข้างกับประชาชนเมืองไครท์เชิร์ช พร้อมกล่าวประณามไฟแห่งความเกลียดชัง ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ขึ้น
ขณะเดียวกัน สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ พากันแสดงจุดยืนต่อต้านความรุนแรงด้วยการลบภาพวิดีโอการโจมตีที่เมืองไครท์เชิร์ชออกจากสื่อของตนเอง หลังจากที่มีการเผยแพร่วิดีโอที่คาดว่าถ่ายไว้โดยมือปืนขณะกำลังยิงกราดที่สุเหร่าทั้งสองแห่งนั้น
วิดีโอดังกล่าวออกอากาศสดบนหน้าเฟสบุ๊กของมือปืน ก่อนที่จะมีการแชร์ต่ออย่างรวดเร็วในสื่ออื่นๆ
รายงานบอกว่า เฟสบุ๊กได้ลบวิดีโอสดนั้นหลังจากโพสต์ไปประมาณ 20 นาที และได้ลบบัญชีของมือปืนทันทีเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีก็อปป๊้ของวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ทางสื่ออื่นๆ รวมทั้ง YouTube, Twitter และ Reddit
อย่างไรก็ตาม แม้สื่อเหล่านั้นกำลังพยายามไล่ลบวิดีโอชิ้นนี้ออกไป แต่ก็ยังถูกตำหนิวิจารณ์ว่าดำเนินการได้ช้าเกินไป พร้อมทั้งเรียกร้องใมห้มีระบบการกลั่นกรองเนื้อหาที่จะออกอากาศแบบสดให้ดีกว่าเดิม
