นักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้เปิดเผยการค้นพบเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า พบเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกเรียกว่า C.1.2 ซึ่งพบครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมในแอฟริกาใต้ จากนั้นได้แพร่ระบาดไปในอย่างน้อย 7 ประเทศในแอฟริกา เอเชีย ยุโรป และโอเชียเนีย
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เชื้อไวรัส C.1.2 มีลักษณะคล้ายกับเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดอื่น ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิมและทำลายภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นด้วย โดยกำลังมีการติดตามศึกษาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาดังกล่าวยังไม่ได้ตีพิมพ์และยังไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์รายอื่น ขณะที่เชื้อไวรัส C.1.2 ก็ยังไม่ถูกจัดว่าเป็น "สายพันธุ์ที่ถูกเพ่งเล็ง" หรือ "สายพันธุ์ที่น่ากังวล" ภายใต้คำจำกัดความขององค์การอนามัยโลกแต่อย่างใด
ซีดีซีมั่นใจวัคซีนป้องกันป่วยหนักจากโควิดสายพันธุ์เดลตาได้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า วัคซีนโควิด-19 ของสามบริษัทที่ผ่านการรับรองให้ใช้ในสหรัฐฯ คือ ไฟเซอร์ (Pfizer) โมเดอร์นา (Moderna) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ยังคงมีประสิทธิผลในระดับสูงในการป้องกันอาการป่วยหนักจากโควิด-19
แพทย์หญิงซารา โอลิเวอร์ นักวิทยาศาสตร์ของซีดีซี กล่าวกับคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนว่า วัคซีนของสามบริษัทดังกล่าวมีประสิทธิผล 94% ในการป้องกันอาการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ในประชาชนอายุ 18 - 74 ปี ระหว่างเดือนเมษายน - กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สายพันธุ์เดลตาระบาดจนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ
สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 75 ปี ประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันไม่ให้ป่วยหนักจะลดลงมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 80% เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของวัคซีนดังกล่าวมีแนวโน้มลดลงในการป้องกันการติดเชื้อหรือการป่วยแบบไม่รุนแรง สืบเนื่องจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาและประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
เวลานี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้ายวัคซีนกำลังพิจารณาว่าจะแนะนำให้ใช้วัคซีนกระตุ้นภูมิ หรือ บูสเตอร์ช็อต กับประชาชนอเมริกันหรือไม่ ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่พุ่งสูงขึ้น
รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนว่า จะเริ่มฉีดบูสเตอร์ช็อตให้คนอเมริกันตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
(ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวรอยเตอร์)