ลิ้งค์เชื่อมต่อ

วิเคราะห์ขุมอำนาจ 'กลุ่มว้า' ผู้ได้เปรียบที่สุดในสงครามกลางเมืองเมียนมา


ภาพจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2019 เเสดงให้เห็นถึงทหารของกองทัพ United Wa State Army ระหว่างการฉลองครบรอบ 30 ปี ความตกลงหยุดยิงกับกองทัพรัฐบาลเมียนมา ในรัฐว้า
ภาพจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2019 เเสดงให้เห็นถึงทหารของกองทัพ United Wa State Army ระหว่างการฉลองครบรอบ 30 ปี ความตกลงหยุดยิงกับกองทัพรัฐบาลเมียนมา ในรัฐว้า

ท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมากในเมียนมา กองกำลังว้าที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนและมีเครือข่ายการค้ายาเสพติด ยังดำเนินการและเสริมความเเข็งเเกร่งของตน โดยสามารถลอยตัวเหนือความขัดเเย้งที่เกิดขึ้น

กองกำลังของว้าที่มีชื่อว่า United Wa State Army หรือ UWSA เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดเเละเเข็งเเกร่งที่สุดในเมียนมา

กองทัพว้าสามารถส่งทหารของตนไปตามที่มั่นใหม่ทั่วตอนกลางของรัฐฉาน ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งมีพรมเเดนติดกับจีน ลาว และไทย

กองกำลัง UWSA หรือที่ยังรู้จักในชื่อ 'กองทัพสหรัฐฯ ว้า' กล่าวว่ากลุ่มของตนเพียงต้องการช่วยไม่ให้ความขัดเเย้งขยายวงกว้าง ท่ามกลางการรบกันของกลุ่มที่เเข็งข้อกับรัฐบาลอื่น ๆ กับกองทัพทางการเมียนมา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ กล่าวว่ากองกำลังว้ากำลังเห็นโอกาสทองในสงครามการเมืองเมียนมา

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กล่าวว่า UWSA ที่มีทหารประมาณ 30,000 คนพยายามสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับกองทัพของตน ยกระดับการค้ายาเสพติดและขยายกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับจีนในเมียนมา

ทั้งนี้ โฆษกของ UWSA ไม่ได้ตอบกลับการขอสัมภาษณ์ของวีโอเอ

เจสัน ทาวเวอร์ ผู้อำนวยการโครงการเมียนมา ของสถาบัน United States Institute of Peace ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งที่ยุทธศาสตร์ของ UWSA อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ก็เพื่อขยายอำนาจ อิทธิพลและเข้าควบคุมพื้นที่ โดยใช้ต้นทุนน้อยมาก"

การที่กลุ่มว้า มีที่มั่นในบริเวณที่ห่างไกล ช่วยให้กองกำลัง UWSA ของตนไม่ต้องเข้าไปอยู่ในใจกลางของสงครามกลางเมืองในเมียนมามากนัก

เมื่อเดือนมกราคม กองกำลังดังกล่าวของว้า ดำเนินการอย่างเงียบ ๆ ในการยึดเมืองสองแห่งจากที่เคยอยู่ภายใต้กลุ่มพันธมิตรทางเหนือ ซึ่งช่วงชิงพื้นที่มาจากรัฐบาลเมียนมาอีกทีหนึ่ง

นอกจากนั้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา UWSA ส่งทหารอีกหลายร้อยคนไปทางเมืองในตะวันตก โดยเมืองเหล่านั้นมีทั้งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังต่อต้านรัฐบาลอื่น ๆ หรือยังเป็นพื้นที่ซึ่งทางการเมียนมายังรักษาไว้ได้

ยุทธศาสตร์นี้ช่วยให้ว้ามีอิทธิพลต่อดินเเดนทางตะวันตกของเเม่น้ำสาละวิน ที่เป็นเส้นเเบ่งรัฐฉานระหว่างด้านเหนือและด้านใต้

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการค้าอาวุธทำให้ UWSA มีสายสัมพันธ์กับหลายฝ่ายในความขัดเเย้ง และช่วยทำให้ว้า ไม่จำเป็นต้องลงมือสู้เอง

อมรา ธิหา นักวิเคราะห์การเมืองเมียนมา ที่สถาบัน Peace Research Institute ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์กล่าวว่า "พวกเขาไม่ต้อง (ยิง) กระสุนเเม้เเต่นัดเดียว...(กลุ่มว้า) น่าจะเป็นผู้ชนะรายใหญ่ที่สุด ที่ยังไม่เสียอะไรเลยในเวลานี้"

เขาบอกด้วยว่ากลุ่มว้ายังสามารถได้ประโยชน์เป็นตัวเงินจากการส่งอาวุธให้กับกองกำลังต่าง ๆ ในความขัดเเย้งนี้ด้วย

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของ UWSA ยังอาจเอื้อประโยชน์ต่อจีน ซึ่งลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการพลังงานและเหมืองในเมียนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกลุ่มว้าสามารถขยายอิทธิพลของตนเชื่อมพื้นที่ระหว่างชายเเดนจีนถึงชายแดนไทย

เนื่องจากกลุ่มว้าที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนมากกว่ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาอื่น ๆ แอนโธนี เดวิส นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง แห่งบริษัท Janes กล่าวว่า ว้าอาจมีส่วนช่วยจีนได้อย่างมากเรื่องโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานบริเวณแม่นำ้สาละวิน

เดวิสกล่าวด้วยว่ากองกำลัง UWSA ยังมีบทบาทสำคัญในการค้ายาเสพติด และประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสารเสพติดเมธแอมเฟตามินทางตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน

เขาบอกว่า "มีสัญญาณว่าการขยายอิทธิพลของว้าไปทางตะวันตกของแม่น้ำผ่านสายสัมพันธ์กับกลุ่ม (Shan State Progress Party) ในรัฐฉาน อาจนำไปสู่การส่งต่อการผลิต (ยาเสพติด) ไปฝั่งนั้นเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว และในอนาคตสิ่งนี้น่าจะเติบโตยิ่งขึ้น"

  • ที่มา: วีโอเอ
XS
SM
MD
LG