กองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศบริเวณดินแดนที่อยู่ในการควบคุมของกลุ่มชาติพันธุ์ บริเวณพรมแดนติดกับจีน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตามรายงานของเอพี
โฆษกของกองกำลังปลดปล่อยชาวคะฉิ่น (Kachin Independence Army) หรือ KIA พันเอก นอว์ บู ได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า การโจมตีด้วยเครื่องบินรบใกล้กับเมืองไลซา ในรัฐคะฉิ่น เกิดขึ้นเมื่อช่วง 12.45 น. ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศรอบล่าสุดนี้ ขณะที่เมื่อวันอังคารเครื่องบินรบของกองทัพเมียนมาได้ทิ้งระเบิด 3 ลูกที่เมืองไลซา คร่าชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 12 คน
เมื่อวันอังคาร หนังสือพิมพ์ Global Light of New Myanmar สื่อที่อยู่ในการควบคุมของกองทัพเมียนมา รายงานว่ามีทหารและเจ้าหน้าที่ถูกสังหาร จากเหตุการณ์ที่กองกำลัง KIA พยายามปิดถนนหลักในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกองทัพเมียนมาระบุว่า ได้ดำเนินการ "ตอบโต้อย่างเหมาะสม" โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม และว่า “ประเทศเพื่อนบ้านได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว”
การโจมตีโดยกองทัพเมียนมา มีขึ้นในช่วงที่กองทัพต่อสู้กับพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธบริเวณตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งเป็นแหล่งลงทุนของจีน และเป็นพิกัดที่รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่ากำลังพ่ายแพ้ในพื้นที่การสู้รบดังกล่าว
อีกด้านหนึ่งในรัฐฉาน มีรายงานผู้คนนับพันต้องพลัดถิ่นหลังจากกองกำลังชาติพันธุ์ 3 กลุ่มได้ร่วมโจมตีกองทัพเมียนมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยรัฐฉานเป็นแหล่งน้ำมันและท่อส่งก๊าซที่ส่งไปให้กับจีนและมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางระดับพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มหนึ่งแถบ-หนึ่งเส้นทางของรัฐบาลปักกิ่ง
เมื่อวันอังคาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ได้พบกับพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่กรุงเนปิดอว์ ตามรายงานของสื่อรัฐบาลเมียนมา เพื่อหารือเป็นวันที่ 2 เกี่ยวกับเหตุโจมตีหลายครั้งบริเวณพรมแดน โดยมีการหารือเรื่องเหตุโจมตีโดยกองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Alliance Army - MNDAA) “ที่หวังทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค” อ้างอิงจากรายงานของหนังสือพิมพ์ Global Light of New Myanmar
แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น
กองกำลัง MNDAA ร่วมกับกลุ่มกองทัพอาระกัน (Arakan Army - AA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta'ang National Liberation Army - TNLA) ระบุว่าได้ยึดถนนสำคัญส่วนหนึ่งที่เชื่อมต่อไปยังจีน ประเทศหุ้นส่วนการค้าใหญ่ของเมียนมา หลังการเริ่มต้นการโจมตีเมื่อวันศุกร์
เมื่อวันพุธ กองกำลังติดอาวุธทั้ง 3 ระบุว่าได้เข้าควบคุมเมืองชินชเวฮอ บริเวณชานแดนจีนและเมืองแสนหวีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางไปยังพรมแดนจีนได้ทั้งหมดแล้ว และว่าฝั่งกองทัพสูญเสียกำลังพลและมีผู้บาดเจ็บหลายสิบรายในเหตุโจมตี
ขณะที่ทางกองทัพเมียนมาไม่ได้ตอบคำถามว่ายังสามารถควบคุมเมืองเหล่านี้ได้อยู่หรือไม่ และทางเอเอฟพี ไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งไม่สามารถเข้าถึงหรือติดต่อกับประชาชนในเมืองแสนหวีและเมืองโฮปัง ที่อยู่ห่างจากชินชเวฮอไปราว 10 กิโลเมตรได้เช่นกัน
บริเวณพรมแดนเมียนมา เป็นบ้านของกองกำลังชาติพันธุ์หลายสิบกลุ่ม ซึ่งมีบางส่วนที่ต่อสู้กับกองทัพเมียนมามาหลายทศวรรษ เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่และทรัพยากรต่าง ๆ ในบริเวณนั้น กองกำลังบางกลุ่มได้รับการฝึกในและเข้าร่วมกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People’s Defense Forces – PDF) ที่ผุดขึ้นเมื่อปี 2021 หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และเข้าปราบปราบผู้เห็นต่าง
นักวิเคราะห์ประเมินว่า กองกำลัง AA, MNDAA และ TNLA ซึ่งมีนักรบอย่างน้อย 15,000 นาย ได้ต่อสู้กับกองทัพเมียนมาที่เข้ายึดอำนาจเมื่อปี 2021 อย่างต่อเนื่อง
แอนโธนี เดวิส นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง กล่าวกับเอเอฟพีว่า นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อปี 2021 กองทัพเมียนมาอยู่ภายใต้ “แรงกดดันในการรับมือกับการตอบโต้ทางการทหารที่รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ทางรัฐบาลปักกิ่งเองก็มีสัมพันธ์กับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์บริเวณพรมแดนติดกับเมียนมาบางกลุ่ม ที่เป็นชุมชนของชาวจีนที่ใช้สกุลเงินหยวนและใช้ระบบโทรคมนาคมของจีนในพื้นที่ดังกล่าว แต่จีนได้ปฏิเสธรายงานที่ว่าจีนได้จัดหาอาวุธให้กับกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้
เมื่อต้นเดือนตุลาคม มีรายงานผู้เสียชีวิตเกือบ 30 คน และบาดเจ็บหลายสิบคน จากเหตุโจมตีที่ค่ายผู้ลี้ภัยในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA อ้างว่าเป็นฝีมือของกองทัพเมียนมา
- ที่มา: เอเอฟพี
กระดานความเห็น