เครือข่ายชุมชนคนหาปลาจากกัมพูชาและไทยรวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีคำเตือนว่า การขัดขวางกระแสน้ำและการเดินทางอพยพของปลาจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้คนนับล้านในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง มีโครงการจะสร้างเขื่อนดังกล่าวรวม 11 เขื่อนด้วยกัน และหลังการประท้วงการสร้างเขื่อนแต่ละเขื่อน เวลานี้ เครือข่ายฯมุ่งเป้าการรณรงค์ไปที่รัฐบาลในภูมิภาค
คุณ Om Savath ผู้อำนวยการทีมงานแนวร่วมปฏิบัติการการประมงในกัมพูชา หรือ FACT บอกว่าได้พยายามผลักดันรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลกัมพูชาและของประเทศอื่นๆให้ระงับการสร้างเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนดอนสะโฮง ซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนกัมพูชาและลาว เพราะถ้าสร้างเขื่อนนี้ขึ้นมา จะส่งผลกระทบการหาปลาอย่างมาก เขื่อนดอนสะโฮงจะผลิตไฟฟ้าได้ 260 เมกกะวัตต์
เครือข่ายฯยังเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีในตอนเหนือของลาวด้วย
นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นไว้ว่า เขื่อนดอนสะโฮงจะกระทบกระเทือนการอพยพของปลาอย่างแน่นอน เพราะบริเวณที่กำหนดจะสร้างเขื่อนเป็นเส้นทางการอพยพทางเดียวของปลาในหน้าแล้ง
คุณเปรมฤดี ดาวเรือง ผู้อำนวยการร่วมของมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร ให้ความเห็นว่า ชุมชนในท้องถิ่นจะต้องมีส่วนร่วมโดยตรงในการแสดงความคิดเห็นในเรื่องการสร้างเขื่อน เพราะการพัฒนาใดๆที่กระทำลงไป ส่งผลกระทบการดำรงชีวิตของชาวบ้านเหล่านี้โดยตรง
ส่วนแม่สมปอง เวียงจันทร์ ผู้นำชุมชนแม่น้ำปากมูน บอกว่า เขื่อนดอนสะโฮงจะมีผลอย่างหนักต่อปริมาณปลาและชีวิตของชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้การสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำ ยังเป็นการกีดกั้นชาวบ้านไม่ให้เข้าถึงแม่น้ำของพวกเขาด้วย
ในขณะที่คุณลอง โสเจียด ผู้นำของเครือข่ายชาวประมงทะเลสาปเขมร บอกว่า ถ้าสร้างเขื่อนดอนสะโฮงกั้นแม่น้ำโขง ปริมาณปลาจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบกระเทือนการทำมาหากินและทรัพยากรธรรมชาติอย่างแน่นอน
ผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง กล่าวเตือนไว้ว่า การสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงตอนล่างจะลดปริมาณปลาลงถึง 3 แสนเมตริกตันต่อปี
