ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าที่เกาะเมาวี (Maui) รัฐฮาวาย เพิ่มเป็นอย่างน้อย 67 คน ขณะที่ทางการคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในวันศุกร์ หลังจากทีมค้นหาระดมกำลังค้นหาเหยื่อบริเวณเมืองตากอากาศซึ่งกลายเป็นเถ้าถ่าน ตามรายงานของรอยเตอร์
เหตุไฟป่าที่ปะทุขึ้นเมื่อวันอังคาร ในเมืองลาไฮนา เผาผลาญอาคารสิ่งก่อสร้างกว่า 1,000 แห่ง ทำลายรถยนต์และทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องไร้บ้าน จากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย
ทีมกู้ภัยจากแคลิฟอร์เนียและรัฐวอชิงตัน ระดมกำลังเข้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตใต้เถ้าถ่านเมื่อวันศุกร์ หลังจากสามารถควบคุมเพลิงได้ราว 80% ของไฟป่าที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดี
นอกจากภารกิจการค้นหาผู้สูญหายจากไฟป่าแล้ว ทางการฮาวายยังต้องรับมือกับปัญหาไฟฟ้าดับและขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันศุกร์ บ้านเรือนและภาคธุรกิจราว 11,000 แห่งยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ตามข้อมูลของเว็บไซต์ Poweroutage.us
ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตจากไฟป่าที่ตอนนี้อยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 4 แห่งบนเกาะเมาวี ทางการรัฐฮาวายได้ร่างแผนในการจัดสรรที่พักสำหรับคนที่ไร้บ้านอย่างกะทันหันจากไฟป่า ตามโรงแรมและบ้านพักให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว
บรรดาผู้ประสบเหตุไฟป่าต่างเปิดเผยกับรอยเตอร์ถึงความน่ากลัวของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัวและไม่มีคำเตือนมาก่อน บางส่วนเผยว่าไฟป่ากลืนกินเมืองทั้งเมืองภายในไม่กี่นาที บ้างก็พยายามหนีเอาชีวิตรอดด้วยการกระโดดลงมหาสมุทรแปซิฟิก และต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบเตือนภัยในพื้นที่
ทั้งนี้ เมืองลาไฮนา เคยเป็นอดีตเมืองหลวงของราชอาณาจักรฮาวาย ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย
โดยไฟป่าได้เข้าทำลายโบสถ์ไวโอลาที่มีอายุ 200 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญบนเกาะเมาวี และเป็นสถานที่ฝังศพของราชวงศ์ฮาวายในอดีต
ไฟป่าเมาวีเป็นหนึ่งในภัยพิบัติล่าสุดในฤดูร้อนปีนี้ โดยมีรายงานไฟป่าเกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่กรีซ สเปน โปรตุเกส และหลายพื้นที่ในยุโรปที่ต้องสั่งอพยพประชาชนจากพื้นที่ ขณะที่ไฟป่าแคนาดาที่เกิดขึ้นหลายจุดยังพัดพาควันพิษเข้ามาในหลายรัฐของอเมริกาในช่วงที่ผ่านมาด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์