ประชาชนนับพันบนเกาะเมาวี (Maui) ของรัฐฮาวายต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนในวันพฤหัสบดี หลังไฟป่าขยายวงกว้างปกคลุมทั่วเกาะและทำลายพื้นที่บางส่วนของเมืองเก่าอายุหลายร้อยปี รวมทั้งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน
ภาวะไฟป่าที่มีความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ปะทุขึ้นบนเกาะเมาวีโดยไม่มีใครได้ตั้งตัวก่อนจะลุกลามหนักเมื่อวันพุธ ไปถึงพื้นที่เมืองลาไฮนา (Lahaina) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ช่วงคริศต์ศตวรรษที่ 1700 และเป็นจุดหมายยอดนิยมจุดหนึ่งของนักท่องเที่ยว โดยเพลิงได้เผาทำลายอาคารประวัติศาสตร์หลายแห่งและรถที่จอดอยู่ตามถนนจนเหลือแต่ซากดำ
คำแถลงจากสำนักงานเมาวีเคาน์ตี้ที่ออกมาช่วงดึกของคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่นระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัตินี้แล้วอย่างน้อย 36 คน โดยก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ของเมาวีเปิดเผยว่า มีอาคารบ้านเรือนอย่างน้อย 271 แห่งเสียหายหรือถูกทำลาย และประชาชนหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ด้านขนส่งของฮาวายเปิดเผยว่า ทางการได้ออกคำเตือนให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงเกาะเมาวีไปแล้ว และมีการประสานงานนำพาผู้ที่มาเยือนราว 11,000 คนออกจากพื้นที่เกาะแห่งนี้ไปตั้งแต่วันพุธ ขณะที่ มีการเตรียมพื้นที่ศูนย์การประชุมฮาวายบนเกาะโออาฮูเพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับผู้พลัดถิ่นแล้ว
ไฟป่าบนเกาะเมาวีรุนแรงขึ้นเพราะลมกำลังแรงจากพายุเฮอร์ริเคนดอราที่พัดผ่านมาในช่วงต้น ก่อนที่ลมจะอ่อนกำลังลงบ้างจนทำให้ทางการอนุญาตให้เที่ยวบินกลับมาให้บริการได้บางส่วนในวันพุธ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ได้สงบลง โดยภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นสภาพบ้านเรือนและร้านรวงนับสิบแห่งในเมืองลาไฮนาถูกเผาเป็นซาก รวมทั้งเถ้าถ่านกองสูงตามพื้นที่ริมน้ำ และภาพเรือที่ท่าเรือซึ่งไหม้ไฟจนเป็นตอตะโก ขณะที่ยังมีควันพวยพุ่งขึ้นมาจากซากต้นไม้ที่ถูกเผาจนดำเป็นถ่าน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สั่งให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังที่มีเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว และออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า “เราขอสวดภาวนาให้กับผู้ที่ต้องเห็นบ้านเรือน ธุรกิจและชุมชนของตนถูกทำลายไป”
ทั้งนี้ มีเหตุไฟป่าบนเกาะบิ๊กไอส์แลนด์ (Big Island) ของฮาวายด้วย แต่ไม่มีรายงานความเสียหายของบ้านเรือนหรือผู้ได้รับบาดเจ็บเหมือนที่เกิดบนเกาะเมาวี
โดยปกติ เหตุการณ์ไฟป่าในฮาวายไม่มีความรุนแรงหนักเหมือนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของสหรัฐฯ เพราะมักเป็นกรณีไฟปะทุขึ้นบนพื้นที่ทุ่งหญ้าที่แห้งแล้งของเกาะต่าง ๆ และกินบริเวณเล็ก ๆ กว่ากรณีของไฟป่าในพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของประเทศ
- ที่มา: เอพี
