ฟิลิปปินส์กลับมาล็อคดาวน์กรุงมะนิลาอีกครั้งในวันศุกร์ หวังสกัดกั้นการระบาดของโคโรนาไวรัส โควิด-19 ลดแรงกดดันของภาคสาธารณสุข ควบคู่กับพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ล่มสลายจากโควิดกลายพันธุ์เดลตา
บรรยากาศทั่วกรุงมะนิลาที่มีประชากร 13 ล้านคนในฟิลิปปินส์ เต็มไปด้วยด่านตำรวจตรวจตราตามจุดต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น หลังทางการเริ่มต้นล็อคดาวน์รอบใหม่เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ครอบคลุมกรุงมะนิลาและจังหวัดลากูนาที่อยู่ใกล้เคียง
ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์เมืองหลวงครั้งใหม่ของฟิลิปปินส์ อนุญาตให้ธุรกิจจำเป็นดำเนินกิจการได้ในระยะ 2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมทั้งอนุญาตให้ผู้คนออกกำลังกายนอกเคหะสถานได้ แต่บังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว 8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน
ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า หากไม่เริ่มต้นล็อคดาวน์กรุงมะนิลาอีกครั้ง การปะทุขึ้นของยอดติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์เดลตาจะทำให้สาธารณสุขของเมืองหลวงฟิลิปปินส์ล่มสลาย หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์เดลตากว่า 330 ราย และเกรงว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศ
ขณะที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่ามาตรการล็อคดาวน์รอบใหม่ ที่มีเป้าหมายปกป้องเศรษฐกิจกรุงมะนิลาที่คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ อาจจะทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักกว่าเดิม จากที่มาตรการล็อคดาวน์ครั้งก่อนของฟิลิปปินส์ ซึ่งรวมถึงการห้ามเด็กและเยาวชนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ได้ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ตกงานหลายล้านคน
แต่ในการล็อคดาวน์ครั้งนี้ ทางรัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้ให้เงินช่วยเหลือ 4,000 เปโซ หรือราว 2,500 บาทต่อครัวเรือน เพื่อเยียวยาผลกระทบเบื้องต้น
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตรเต้ กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ประชาชนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนควรต้องอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น และหากพยายามออกจากบ้าน จะมีตำรวจพากลับบ้านไป เพราะคนเหล่านี้คือผู้แพร่เชื้อที่เดินได้
ด้วยเหตุนี้ ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เดินทางไปต่อคิวรับวัคซีนกันเนืองแน่นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพราะพวกเขากังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางไปข้างนอกได้ หรืออาจไม่ได้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลหากไม่ฉีดวัคซีน เป็นเหตุให้ทางการต้องสั่งปิดศูนย์ฉีดวัคซีนไป 1 แห่ง เพราะคนต่อคิวฉีดวัคซีนจนล้นอาคาร
ด้านทางการฟิลิปปินส์ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ถ้อยแถลงของปธน.ดูเตรเต้ ไม่ได้เป็นการบังคับให้คนไปแห่ฉีดวัคซีน พร้อมกับบอกว่านี่เป็นข่าวปลอม เพราะรัฐบาลไม่ได้ออกกฏบังคับหรือห้ามคนที่ไม่ฉีดวัคซีนออกจากบ้าน เพียงแต่แนะนำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิดเท่านั้น
ปัจจุบัน ชาวฟิลิปปินส์ กว่า 10 ล้านคนได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว คิดเป็นสัดส่วน 9% ของประชากรประเทศ
(ที่มา: AFP)