ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘มาคร็อง’ ชี้ ยุโรปไม่ควรดำเนินตามนโยบายไต้หวันทั้งของสหรัฐฯ และจีน


French President Emmanuel Macron speaks during a meeting with China's French community at the residence of France's ambassador in Beijing, Apr. 5, 2023.
French President Emmanuel Macron speaks during a meeting with China's French community at the residence of France's ambassador in Beijing, Apr. 5, 2023.

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า ยุโรปไม่มีความสนใจที่จะเร่งระดับวิกฤตในไต้หวันแม้แต่น้อย และยุโรปก็ควรดำเนินยุทธศาสตร์ของตนอย่างอิสระโดยไม่ต้องทำตามสิ่งที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันและกรุงปักกิ่งทำอยู่ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

ความเห็นดังกล่าวของปธน.มาคร็องได้รับการตีพิมพ์ออกมาในวันอาทิตย์ หลังผู้นำฝรั่งเศสเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่ กรุงปักกิ่งเดินหน้าทำการซ้อมรบต่อเนื่องรอบ ๆ เกาะที่ปกครองตนเองในระบอบประชาธิปไตยนี้อยู่ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการที่ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน แวะสหรัฐฯ และเข้าพบกับผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติของกรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ในความเห็นที่ให้กับหนังสือพิมพ์ เล เซโค (Les Echos) และสื่อ โพลิติโก (Politico) ระหว่างเยือนกรุงปักกิ่ง ปธน.มาคร็อง กล่าวด้วยว่า ยุโรปยังควรใช้เวลาในการสร้างจุดยืนของตนในฐานะเสาหลักที่ 3 ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ด้วย

สื่อ Politico ระบุในรายงานว่า ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวด้วยว่า “สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คือ การคิดว่า เรา ชาวยุโรป ต้องเป็นผู้ตามในประเด็นนี้ และปรับตัวตามจังหวะของอเมริกา หรือการมีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงเกินไปของจีน”

นอกจากนั้น สื่อทั้งสองยังรายงานคำพูดของปธน.มาคร็องที่ว่า ยุโรปต้องให้เงินสนับสนุนอุตสาหกรรมทางทหารของตนมากกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานหมุนเวียน และลดการพึ่งพาเงินทุนสกุลดอลลาร์ เพื่อจำกัดการพึ่งพาสหรัฐฯ ด้วย

ทั้งนี้ ผู้นำฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับสื่อสองแห่งนี้ระหว่างบินจากกรุงปักกิ่งไปยังเมืองกว่างโจวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ในวันเดียวกันนี้เอง ที่ปรึกษารายหนึ่งของผู้นำฝรั่งเศสบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ปธน.มาคร็อง และปธน.สี จิ้นผิง มีการหารือ “อย่างเข้มข้นและเปิดเผย” เกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน และว่า “ความรู้สึกของประธานาธิบดี(มาคร็อง) คือ เราควรจะใช้ความระมัดระวัง ไม่ให้มีอุบัติเหตุหรือการยกระดับความตึงเครียด (ที่อาจทำให้) จีนดำเนินการเชิงรุก”

ในระหว่างการเยือนจีนที่ผ่านมา ปธน.มาคร็องนำทีมคณะนักธุรกิจฝรั่งเศส 50 คนซึ่งรวมถึงตัวแทนจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินแอร์บัส (Airbus) และธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ อีดีเอฟ (EDF) ซึ่งร่วมลงนามข้อตกลงหลายฉบับกับจีนในการเดินทางครั้งนี้

  • ที่มา: รอยเตอร์

XS
SM
MD
LG