นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า การที่ ปธน. บารัค โอบาม่า เดือนทางเยือนลาวเป็นเวลา 3 วัน แสดงให้เห็นว่าเวลานี้ลาวกำลังก้าวออกมาจากจากอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและจีน
ตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ลาวตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเวียดนามทั้งทางการเมืองและวัฒนธรรม จนมาถึงยุคการปฏิวัติสังคมนิยม เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ของลาวส่วนใหญ่ต่างใช้ชีวิตบางช่วงอยู่ในเวียดนาม หลายคนพูดภาษาเวียดนามได้อย่างคล่องแคล่ว
คุณ เหงียน ง็อก เตรือง นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศและอดีตนักการทูตระดับสูงของเวียดนาม ระบุว่าทุกวันนี้เวียดนามยังคงมองว่าลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ทรงความสำคัญ แม้ว่าความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจปริมาณมหาศาลที่ลาวได้จากจีน จะทำให้จีนอยู่ในสถานะที่เหนือกว่าเวียดนาม
นักวิเคราะห์ผู้นี้ชี้ว่า เวียดนามเข้าใจดีถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งจีนก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมากในลาว สืบเนื่องจากความช่วยเหลือที่รัฐบาลปักกิ่งมอบให้กับรัฐบาลกรุงเวียงจันทน์
คุณ เหงียน ง็อก เตรือง กล่าวว่า ประเด็นเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้คือส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันในเรื่องนี้ หลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ ต่างช่วยสกัดกั้นไม่ให้สมาคมอาเซียนมีแถลงการณ์ที่เป็นเอกฉันทน์ เพื่อจัดการท่าทีก้าวร้าวของจีนในการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้
ถึงกระนั้น คุณเหงียนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยาวนานระหว่างลาวกับเวียดนามแต่อย่างใด
ตามรายงานที่ปรากฏอยู่ในสื่อของทางการจีน เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากจีนเข้าไปในลาวนั้นสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหมายความว่าเงินลงทุนจากเวียดนามไม่สามารถเทียบได้กับอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่จีนมีต่อลาว หรือที่นักวิเคราะห์ผู้นี้เรียกว่า “การรุกรานทางเศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ตาม คุณ โฮ คัม กอย แห่งศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ในนครโฮจิมินท์ กล่าวว่าในระดับประชาชน ผู้คนทั้งสองประเทศยังมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตลอดเวลา
นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่าชาวเวียดนามจำนวนมากยังต้องการเรียนภาษาลาว ทั้งเพื่อเดินทางไปศึกษา ทำธุรกิจ หรือไปตั้งรกรากในลาว
สำหรับการเยือนลาวของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เป็นเวลา 3 วันในสัปดาห์นี้ บรรดานักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ อาจต้องขบแก้กับหลายประเด็นที่สืบเนื่องมาจากอดีตที่สหรัฐฯ เคยเข้าไปปฏิบัติการทางทหารในลาวในช่วงสงครามเวียดนาม หนึ่งในนั้นคือระเบิดจำนวนมากที่สหรัฐฯ ทิ้งลงไปในลาว แต่ยังไม่ระเบิดจนถึงทุกวันนี้
ทางการลาวประเมินว่ายังมีลูกระเบิดดาวกระจายขนาดเท่าลูกเทนนิสที่ยังไม่ระเบิด ตกค้างอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศลาว ประมาณ 80 ล้านลูก ซึ่งพร้อมระเบิดได้ตลอดเวลา
คาดว่า ปธน. โอบาม่า จะประกาศให้เงินทุนช่วยเหลือแก่รัฐบาลเพื่อช่วยในการกู้ระเบิดเหล่านั้น ขณะที่รัฐบาลลาวมีแนวโน้มว่าจะเสนอความช่วยเหลือในการติดตามข้อมูลของอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่สูญหายหรือเสียชีวิตในลาว ให้แก่สหรัฐฯ เป็นการแลกเปลี่ยน
ไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐเยือนประเทศลาวมาก่อน ครั้งนี้จึงถือเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับลาว
นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า คราวนี้เป็นโอกาสอย่างจริงจังที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับลาวก้าวหน้าต่อไปได้ เพื่อเริ่มต้นการเป็นเพื่อนร่วมงานที่จะทำประโยชน์ให้กับทั้งสองประเทศ
รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีโอบาม่า ที่ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ซึ่งสหรัฐฯ เคยมีประวัติเกี่ยวข้องที่สลับซับซ้อนมา
(ผู้สื่อข่าว Trung Nguyen รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)