ญี่ปุ่นกำลังมองหาหนทางเสริมสร้างแผนงานร่วมซ้อมรบกับฟิลิปปินส์ในอนาคต หลังพันธมิตรทั้งสองของสหรัฐฯ ประกาศในวันพฤหัสบดีว่าจะกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างกัน ในช่วงที่ความตึงเครียดกับจีนยกระดับรุนแรงขึ้น ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
รัฐบาลกรุงโตเกียวและกรุงมะนิลาเพิ่งลงนามในข้อตกลงที่จะอนุญาตให้กองกำลังของตนสามารถทำงานร่วมกันในด้านปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติ โดยหลายฝ่ายมองว่า ข้อตกลงนี้น่าจะเป็นการเปิดทางให้ทั้งสองประเทศสามารถขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับที่ต่างสามารถส่งกำลังพลของตนไปยังเขตแดนของอีกฝ่ายได้
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ระบุในสุนทรพจน์เปิดการประชุมกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ ในกรุงโตเกียว ว่า “ในปีนี้ที่สถานการณ์ระหว่างประเทศที่มีความซับซ้อน ญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเด็นความร่วมมือกับฟิลิปปินส์”
ต่อมา นายกฯ ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตนและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้ตกลงที่จะพยายามและจัดตั้งกรอบการทำงานที่จะ “เสริมสร้างและทำให้กระบวนการจัดการร่วมซ้อมรบเป็นไปอย่างราบรื่น”
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเพิ่งเข้าร่วมแผนซ้อมรบกับสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์
รายงานข่าวระบุว่า การที่จีนส่งทัพไปทำการซ้อมรบใกล้ ๆ กับไต้หวัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ เป็นประเด็นที่ทำให้รัฐบาลกรุงโตเกียวและกรุงวอชิงตันกังวลใจอย่างมาก ว่า สถานการณ์ความตึงเครียดอาจบานปลายและยกระดับได้ ถ้ากรุงปักกิ่งตัดสินใจใช้กำลังเข้ายึดเกาะที่ปกครองตนเองในระบอบประชาธิปไตยนี้
ทั้งนี้ การที่ฟิลิปปินส์เปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นเข้ามาทำปฏิบัติการในผืนดินของตนน่าจะช่วยให้กรุงมะนิลาสามารถต้านอิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งกรุงปักกิ่งอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของพื้นที่ส่วนใหญ่ของท้องน้ำนี้ แม้แต่บริเวณที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า เป็นของตนเอง
- ที่มา: รอยเตอร์
